LINE : ติดต่อผู้ดูแล
เย็นวันนี้ (9 พ.ย. 66) เริ่มเคลื่อนย้าย “น้องกันยา” ลูกช้างป่าภูวัวพลัดหลงโขลง ที่บึงกาฬ ไปหาแม่รับ ที่เชียงใหม่ เพื่อฝากเลี้ยงให้นม เพื่อให้ลูกช้างมีสุขภาพแข็งแรง คาดถึงบ้านใหม่พรุ่งนี้ (10 พ.ย. 66) เวลา 10.00 น. เตรียมทำความคุ้นเคยแม่นมใหม่ เริ่มป้อนนมก่อนให้เข้าเต้าแม่ช้าง เบื้องต้นแม่ช้างและน้องน่าจะปรับตัวได้ดี
กรณีชาวบ้านพบลูกช้างป่า พลัดหลงจากโขลงอยู่กลางทุ่งนา ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 เจ้าหน้าที่ได้ทำคอกให้อยู่รอแม่ และโขลงมารับ แต่สุดท้ายไร้วี่แวว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการอนุบาล ตรวจสุขภาพ ตั้งชื่อว่า “น้องกันยา” ตามเดือนที่พบน้อง
จากนั้นทีมดูแลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประเมินเพื่อหา “แม่รับ” คือแม่ช้างที่ให้นมน้องกันยา โดยต้องเป็นแม่ช้างเพิ่งตกลูก จึงมีการประสานกับ Patara Elephant Conservation ณ ท้องที่บ้านแม่ขนิลเหนือ ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ นำน้องกันยา ไปฝากเลี้ยง เมื่อแข็งแรงแล้ว จะมีการประเมินเพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ช่วงเย็นวันนี้ เพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่คลิปน้องกันยา ขณะขึ้นรถเดินทางมาหาแม่รับที่เชียงใหม่ โดยมีอาการร่าเริง ขณะเดินทางมีการให้นม ไม่มีอาการตื่นตกใจ คาดว่าถึงเชียงใหม่ ช่วงเช้าพรุ่งนี้ (10 พ.ย. 66)
ธีรภัทร ตรังปราการ เจ้าของ Patara Elephant Conservation กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ถึงการเตรียมความพร้อมของแม่รับ และการปรับตัวของน้องกันยา หลังมาถึงว่า เมื่อ “น้องกันยา” มาถึงจะแยกไว้ในคอกเดี่ยวก่อน และมีการนำนมจากแม่ช้างทั้งสองเชือกที่เพิ่งตกลูก ให้น้องกันยากินก่อน โดยใส่ถุงนมมาป้อนน้องก่อน ให้น้องได้คุ้นเคยกับนมของแม่ช้าง แต่ยังไม่นำน้องกันยาเข้าเต้ากับแม่ช้าง เนื่องจากการเดินทาง อาจทำให้ลูกช้างอ่อนเพลีย เลยต้องให้น้องได้พักผ่อนเพียงพอก่อน
สำหรับ “แม่รับ” แบ่งแม่ช้างเป็น 2 ทีม ชุดแรกเป็นแม่ช้างชื่อ “แม่บัวตอง” อายุ 28 ปี คอยดูแล ซึ่งมีการตั้งท้อง แต่ยังให้นมไม่ได้ โดยพฤติกรรมของแม่บัวตอง มีอุปนิสัยชอบเลี้ยงลูกช้าง ส่วนแม่ช้างชุดที่ 2 เป็นแม่ ที่ให้เข้าเต้ากินนมได้ มีทั้งหมด 4 เชือก โดยหลักมี 2 เชือก เพิ่งให้กำเนิดลูกช้าง ทางทีมเชื่อว่านมของแม่ช้างที่เพิ่งให้กำเนิดลูก มีประโยชน์กับน้องกันยา ทั้งในเรื่องของสารอาหาร ประโยชน์ที่ได้รับ ส่วนแม่ช้างอีก 2 เชือก ยังให้นมได้ แต่ลูกที่ให้กำเนิดมีอายุ 7 เดือนแล้ว
ที่ผ่านมามีการนำลูกช้างกำพร้ามาเลี้ยงโดยแม่รับหลายเชือก แต่ส่วนใหญ่เป็นช้างบ้าน น้องกันยา ที่เป็นช้างป่าพลัดหลง จึงเป็นอีกความท้าทาย ทางทีมงานเชื่อว่า น้องกันยา สามารถปรับตัวเข้ากับแม่รับได้ในเวลาไม่นาน เนื่องจากในพื้นที่แม่ช้างมีการเลี้ยงลูกปนกัน ทำให้ลูกช้างของแม่อีกเชือกไปกินนมแม่ช้างอีกเชือกอยู่ประจำ
เท่าที่ได้เห็นภาพน้องกันยา น่าจะปรับตัวเข้ากับแม่รับได้ง่าย เพราะอุปนิสัยน้องก็อยากจะหาเพื่อนอยู่ด้วย เห็นได้จากเวลาน้องกันยาเดินในคอก จะยกปากเงยหน้าอยู่ตลอด เป็นพฤติกรรมที่ลูกช้างแสดงออกเมื่อเจอแม่ช้าง ขณะเดียวกันท่าเงยหน้าแบบดังกล่าว เป็นลักษณะที่ลูกช้างเงยหน้ากินนมแม่
“งานนี้เป็นความร่วมมือของสหพันธ์ช้างไทย โดยทางฟาร์มเป็นสมาชิกของสมาคมฯ เลยได้ร่วมมือกับทางกรมฯ ในการนำน้องกันยา มาเลี้ยงกับแม่รับ เจตนาเบื้องต้นอยากให้ช้างเชือกนี้พ้นวิกฤติของการต้องการนมแม่ เพราะลูกช้างกำพร้า ถ้าได้รับนมจากแม่รับตั้งแต่ 12 เดือน–1 ปี จะสามารถหากินได้ด้วยตัวเอง ทางหน่วยงานจึงไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะดูแลน้องกันยา จำนวนกี่ปี แต่ต้องการช่วยเหลือลูกช้าง ให้รอดพ้นก่อน จากนั้นเป็นการพิจารณาของทางกรมฯ เพื่อนำกันยาไปดูแลต่อ แต่ในช่วงเวลาที่ทางฟาร์มดูแล ยังไม่มีแผนที่ให้น้องมาเจอกับประชาชนทั่วไป เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหน่วยงานรัฐที่ดูแล”
ทีมงานยังมีความหวังว่า หลังจากน้องกันยาแข็งแรงและดูแลตัวเองได้แล้ว จะกลับคืนสู่ป่า หรือไปยังสถานที่ของทางกรมฯ ที่รองรับไว้ เพื่อให้เกิดการเลี้ยงดูอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป.
