วันที่ 17 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากเกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายกว่า 200 ร้อยหลังคาเรือน ทั้งสวนยางพารากว่า 2,000 ต้นหักโค่นเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา พายุไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนและสวนยาง แต่ยังได้พัดเอาหลังคายุ้งฉางเก็บข้าวเปลือกของชาวบ้านเสียหายไปด้วยในหลายพื้นที่ของจังหวัดบึงกาฬ เช่น ยุ้งฉางของนางกองแพง บุญครอง อายุ 60 ปี ชาวบ้านป่ากอ ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ นางกองแพงได้พาไปดูและได้ชี้ให้ดูถึงยุ้งฉางที่เก็บข้าวเปลือก หลังคายุ้งฉางข้าวถูกแรงลมพัดได้รับความเสียหายประกอบกับมีฝนตกลงมาส่งผลให้ข้าวเปลือกจำนวน 120 กระสอบ ถูกน้ำฝน ต้องให้ลูกหลานรีบนำถุงข้าวเปลือกออกมาตากแดดที่ลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้านเพื่อให้ข้าวเปลือกที่เปือกน้ำแห้งเพื่อไม่ให้มีความชื้นป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ข้าวเปลือกที่เก็บไว้เพื่อจะรอขายเมื่อราคาสูงขึ้นในช่วงหน้าฝนแต่ก็มาถูกน้ำฝนเปียกเสียก่อนแม้ว่าจะตากแห้งแต่ข้าวก็คงเหลืองเมื่อนำไปขายคงถูกโรงสีหรือพ่อค้าคนกลางกดราคาลง ความหวังที่จะขายข้าวได้ราคาสูงคงหมดไปในปีนี้ นางกองแพงคาดหวังว่าจะขายข้าวจำนวนนี้เพื่อจะนำเงินมาใช้จ่ายในครัวเรือนที่เหลือก็จะนำไปเป็นทุนในการปลูกข้าวในปีนี้
เช่นเดียวกับต้นยางพาราของเกษตรกรที่ปลูกไว้อายุตั้งแต่ 5-12 ปี หักโค่นล้มมากกว่า 2,000 ต้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายและค่าเสียโอกาสรวมเป็นเงินไม่น้อย ยิ่งอยู่ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำ ผ่านมากว่า 5 วันแล้วยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแล จากผลกระทบดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกพายุพัดต้นยางหักโค่น เพราะต้นยางที่หักโค่นไม่สามารถกรีดน้ำยางได้อีกแถมยังต้องจ้างแรงงานมาตัดทิ้ง เกษตรกรจึงอยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือเป็นเงินทุนสนับสนุน รวมทั้งต้องการพันธุ์ยางพารามาปลูกทดแทนต้นยางที่ถูกพายุหักโค่นเสียหายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรที่ประสบวาตภัยอย่างเร่งด่วนด้วย