สุดเศร้า! หนุ่มศรีวิไลเสพยาอาการหลอน ใช้หินเจียรเชือดคอตัวเอง เดินมาตายต่อหน้าแม่

แม่แทบขาดใจ!! เห็นลูกเดินมาตายต่อหน้า โดยที่ตนเองไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ หลังชักชวนลูกมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เพื่อออกจากสังคมเพื่อนที่บ้านในบึงกาฬ เพราะพบมีอาการคล้ายคนเสพยาจนหลอน และให้ไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ได้ผลัด 2 เตรียมเข้ารายงานตัว พ.ย.นี้ แต่ต้องมาเจอภาพสลด เมื่อลูกคว้าหินเจียรเชือดคอตัวเองดับ…

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ร.ต.อ.ณรงค์ชัย อนาวัน รอง สว.(สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ถนนเพชรเกษม 79 แยก 1 แขวงและเขตหนองแขม กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช สว.สส.สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกในรั้วรอบขอบชิดเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา จากการตรวจสอบในห้องโถงชั้นล่างพบคราบเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ มีหินเจียรลูกหมูใบตัดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว ตกอยู่หน้าโทรทัศน์ จำนวน 1 ตัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายตัวเองเดินไปขาดใจตายที่ริมท้องร่องสวนมะพร้าวด้านหลังบ้าน ห่างไปประมาณ 50 เมตร ชื่อ นายเสรี ชุมแวงวาปี อายุ 21 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สภาพศพ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำลายสลับสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีเทา มีบาดแผลถูกใบตัดหินเจียรลูกหมูเชือดเข้าที่ลำคอตัดหลอดลม จำนวน 1 แห่ง เลือดทะลักท่วมร่างจึงมอบศพให้มูลนิธินำส่งนิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบสวน นางปิยะดา ชุมแวงวาปี อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านและเป็นมารดาผู้ตาย ให้การทั้งน้ำตาว่า ตนกับสามีใหม่เดินทางมายึดอาชีพรับเหมาก่อสร้างที่กรุงเทพฯ มานานหลายสิบปีแล้ว โดยปล่อยให้ผู้ตายอยู่กับญาติที่ จ.บึงกาฬ ปัจจุบันผู้ตายกำลังเรียน กศน.ระดับ ม.6 ที่บ้านเกิด และเพิ่งสมัครเข้าเป็นพลทหารสังกัดกองทัพบก ผลัด 2 จะต้องไปรายงานตัวที่หน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ โดยห้วงเวลา 1 ปี ที่ผ่านมาทางญาติๆ ได้บอกตนว่าผู้ตายมีอาการผิดปกติไปคล้ายคนเสพยาจนหลอน กลางค่ำ กลางคืน ไม่ยอมนอน ชอบเดินไปเดินมา และมีอาการหวาดระแวงในบางครั้ง ตนจึงตัดสินใจให้ญาติๆ ส่งตัวไปเข้ารักษากับแพทย์ที่ รพ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ รับยาบำรุง ยานอนหลับ และยาคลายเครียด มาทานอย่างต่อเนื่อง

นางปิยะดา กล่าวว่า เนื่องจากเห็นว่าลูกชายกำลังเข้าสู่วัยเกณฑ์ทหาร จึงส่งเสริมให้ไปสมัครเป็นพลอาสาสมัคร เพื่อจะได้อยู่ในระเบียบวินัยมากขึ้น ประกอบกับเหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะรายงานตัวเข้ารับราชการ จึงคิดว่าจะดึงผู้ตายมาทำงานรับเหมาก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน เพื่อให้ออกห่างจากสังคมเพื่อนฝูงที่อาจชักชวนกันไปในทางไม่ดี โดยบอกให้ลูกชายนั่งรถทัวร์จาก จ.บึงกาฬ เดินทางมาหาถึงที่บ้านเมื่อช่วงตี 5 เช้านี้ แต่พอมาถึงก็พบความผิดปกติเพราะลูกชายไม่ยอมคุยกับใคร มีอาการเหม่อลอย จึงให้นอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องโถงชั้นล่าง กระทั่งเวลา 14.30 น. ตนนั่งตากพัดลมอยู่ที่หลังบ้าน จู่ๆ ลูกชายก็เดินออกจากห้องโถงมาทางตนในสภาพเลือดไหลทะลักออกจากลำคอ ก่อนเดินตรงไปนอนสิ้นใจอยู่ที่ท้องร่องริมคลองต่อหน้าต่อตา ไม่คิดเลยว่าลูกชายจะคว้าเอาหินเจียรลูกหมูเครื่องมือที่เก็บไว้ในห้องโถงมาเชือดคอตัวเองจนเสียชีวิต

ด้าน ร.ต.อ.ณรงค์ชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนมารดาผู้ตาย ไม่ติดใจกับสาเหตุการตายของลูกชาย เนื่องจากตอนเกิดเหตุมีผู้ตายอยู่ลำพังในห้องโถง โดยหลังจากนี้จะมอบศพพร้อมยารักษาอาการที่ผู้ตายนำติดตัวมาด้วย จาก จ.บึงกาฬ จำนวน 5 ซอง ไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนออกเอกสารให้ญาติๆ รับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดต่อไป.

ข่าว http://www.thairath.co.th/content/623721

‘>