บึงกาฬ เศรษฐกิจโตแรงสุดอันดับ 3 ของไทย ในช่วง 5 ปี
27 ส.ค. 2024
บึงกาฬ เศรษฐกิจโตแรงสุดอันดับ 3 ของไทย ในช่วง 5 ปี /โดย ลงทุนแมน
จากข้อมูลสภาพัฒน์ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) จังหวัดในไทย ที่มีเศรษฐกิจเติบโตเฉลี่ยมากที่สุด
1. จันทบุรี เติบโตปีละ 7.08%
2. ชุมพร เติบโตปีละ 6.95%
3. บึงกาฬ เติบโตปีละ 6.93%
สองอันดับแรก หลายคนน่าจะพอนึกออกว่า จันทบุรี มีพืชเศรษฐกิจอย่าง ทุเรียน มังคุด ลำไย ส่วนชุมพรมีปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน ซึ่งเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ
แต่อาจสงสัยว่า ทำไม “บึงกาฬ” จังหวัดเล็ก ๆ ในภาคอีสาน ถึงเติบโตแรงได้ขนาดนี้ ?
จังหวัดนี้มีดีอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit – คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เดิมทีบึงกาฬ เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดหนองคาย
ก่อนที่ในปี 2554 ได้แยกการปกครองออกมาเป็นจังหวัดใหม่ ตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่
เนื่องจากหนองคาย มีระยะทางยาวจากเหนือจรดใต้ ถึง 330 กิโลเมตร
โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในบึงโขงหลง ซึ่งเป็นอำเภอที่ไกลสุดของหนองคายในอดีต ต้องเสียเวลาและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายกับการเดินทางมาติดต่อราชการในตัวเมือง
ประกอบกับการบริหารราชการและการแก้ไขปัญหาด้านชายแดนไม่สะดวกและไม่ทั่วถึง
ซึ่งการก่อตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นมา ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
รวมถึงช่วยให้การบริหารราชการ สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน บึงกาฬตั้งอยู่ในภาคอีสานตอนบนสุด มีพื้นที่ 4,305 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับ 52 ของจังหวัดในไทย โดยในปี 2566 มีประชากรราว 420,487 คน
ถ้าลองเจาะลึกเข้าไปในจังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ พบว่าปี 2565 มีขนาดเศรษฐกิจราว 31,755 ล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อหัว 89,033 บาทต่อปี
ที่น่าสนใจคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของบึงกาฬเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง มีการเติบโตสูงถึง 6.93% ต่อปี
เป็นรองเพียงจันทบุรีและชุมพรเท่านั้น ที่มีกำลังขับเคลื่อนสำคัญจากภาคเกษตรกรรม
แล้วบึงกาฬ มีดีอะไร ?
เริ่มกันที่
– ภาคบริการ
ด้วยทำเลที่ตั้งติดกับแม่น้ำโขงและมีพรมแดนติดกับประเทศลาว ทำให้บึงกาฬเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการค้า มีด่านศุลกากร เพื่อรองรับการค้าขายชายแดน
โดยมูลค่าการค้าชายแดนทั้งหมด ผ่านด่านศุลกากรบึงกาฬ ที่ผ่านมา (ตามปีงบประมาณ) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ปี 2562 มูลค่า 3,647 ล้านบาท
ปี 2563 มูลค่า 4,858 ล้านบาท
ปี 2564 มูลค่า 4,593 ล้านบาท
ปี 2565 มูลค่า 7,134 ล้านบาท
ปี 2566 มูลค่า 6,874 ล้านบาท
ปี 2567 มูลค่า 7,613 ล้านบาท
(ปีงบประมาณ 2567 เป็นยอดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนกรกฎาคม 2567)
นอกจากนี้ บึงกาฬยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่โดดเด่นคอยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอีกด้วย
โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสายมู อย่างเช่น ถ้ำนาคา ที่โด่งดังขึ้นมาในไม่กี่ปีมานี้
ซึ่งนอกจากความสวยงามตามธรรมชาติแล้ว ยังมีความเชื่อมโยงกับความเชื่อของคนไทยในเรื่องพญานาค ที่มีผู้ศรัทธามากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภ
ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนบึงกาฬกว่า 850,000 คน เพิ่มขึ้น 17%
และสร้างรายได้ให้จังหวัดราว 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนหน้า
ต่อมา
– ภาคเกษตรกรรม
บึงกาฬนั้น มีพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างยางพารา โดยเป็นแหล่งปลูกยางพารามากสุดในภาคอีสาน และติด TOP 10 ของประเทศ ด้วยพื้นที่เพาะปลูก 876,462 ไร่
เพราะบึงกาฬมีทั้ง ดิน น้ำ อากาศ และปริมาณน้ำฝนที่พอเหมาะ โดยมีลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย ที่ได้รับความชื้นจากแม่น้ำโขง จึงมีสภาพพื้นที่เหมาะสมเอื้อต่อการปลูกยางพาราได้ดี
โดยข้อมูลในปี 2565 บึงกาฬมีผลผลิตยางพาราราว 208,035 ตัน
หากเทียบเป็นผลผลิตต่อไร่ จะสูงถึง 248 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าทุกจังหวัดในภาคใต้ และมากที่สุดในประเทศเลยทีเดียว
ซึ่งแนวโน้มราคาผลผลิตจากยางพาราที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจังหวัด
ราคาน้ำยางสด ที่ผ่านมา
ปี 2563 ราคาเฉลี่ย 44.7 บาทต่อกิโลกรัม
ปี 2564 ราคาเฉลี่ย 53.4 บาทต่อกิโลกรัม
ปี 2565 ราคาเฉลี่ย 54.8 บาทต่อกิโลกรัม
ปี 2566 ราคาเฉลี่ย 47.0 บาทต่อกิโลกรัม
ปี 2567 ราคาเฉลี่ย 64.4 บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีพืชเศรษฐกิจอย่างข้าวและปาล์มน้ำมัน อีกด้วย
สุดท้าย
– ภาคอุตสาหกรรม
จากข้อมูลปี 2565 อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง ของบึงกาฬนั้น มีเม็ดเงินการลงทุนมากที่สุด โดยคิดเป็นเงินลงทุนรวมสะสมกว่า 4,000 ล้านบาท
เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับภาคเกษตรกรรม ในการต่อยอดแปรรูปผลผลิตจากยางพารานั่นเอง
นอกจากนี้ ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากสุดของจังหวัด โดยมีการจ้างงานกว่า 1,500 คน อีกด้วย
จะเห็นว่า บึงกาฬเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของไทยที่มีศักยภาพการเติบโต ทั้งจากด้านยางพารา การค้าชายแดน และการท่องเที่ยวสายมู
ทำให้ตามมาด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต
– โครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) งบลงทุนกว่า 3,900 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเปิดใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2567
– โครงการก่อสร้างสนามบินบึงกาฬ งบประมาณก่อสร้าง 3,152 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2569
– โครงการสร้างถนน 4 เลน สายใหม่ อุดรธานี-บึงกาฬ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570
อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง บึงกาฬก็ยังมีความท้าทาย ที่ต้องมีการบริหารจัดการให้เติบโตอย่างยั่งยืนเช่นกัน
ทั้งความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางพารา พืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด
และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งอาจทำให้รายได้ของเกษตรกรลดลง
รวมถึงด้านที่ต้องพึ่งพาการค้าชายแดนกับประเทศลาว ซึ่งความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจลาว ก็ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของบึงกาฬตามไปด้วย
Close Ad
มากกว่านั้น ยังมีเรื่องของการจัดการที่ต้องรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว โดยไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม และรักษาความนิยมของสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวของบึงกาฬ จังหวัดเล็ก ๆ ที่เกิดมาเพียงสิบกว่าปี
แต่ปัจจุบันมีเศรษฐกิจโตเฉลี่ยปีละเกือบ 7% ในช่วง 5 ปี แรงสุดเป็นอันดับ 3 ของไทย กลายเป็นอีกหนึ่งจังหวัดดาวรุ่งบนแผนที่ประเทศไทย ที่น่าจับตามอง ณ ตอนนี้..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit – คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website – longtunman.com
Blockdit – blockdit.com/longtunman
Facebook – facebook.com/longtunman
Twitter – twitter.com/longtunman
Instagram – instagram.com/longtunman
YouTube – youtube.com/longtunman
TikTok – tiktok.com/@longtunman
Spotify – open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts – podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud – soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.nesdc.go.th/main.php?
-https://www.oae.go.th/view/1
-https://buengkhan.industry.go.th/
-https://www.thansettakij.com/business
-https://buengkan.customs.go.th/list_strc