วันที่ 13 กันยายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เริ่มมีฝนตกต่อเนื่อง หลังอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนจะมีพายุดีเปรสชั่น ทำให้ฝนตกหนักในช่วงนี้ ส่งผลให้น้ำโขงยังอยู่ที่ระดับ 10 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตแค่ 3 เมตร เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำโขงหนุนเอ่อท่วม หากมีฝนตกหนักในช่วงนี้ โดยทางด้านประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดชายแดนแม่น้ำโขง 4 อำเภอ มี อำเภอบ้านแพง อำเภอท่าอุเทน อำเภอเมือง และอำเภอธาตุพนม ยังคงต้องเฝ้าระวังปัญหาน้ำโขงเอ่อท่วมล้นตลิ่ง เข้าท่วมชุมชน พื้นที่การเกษตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกอำเภอได้เร่งวางแผนหาทางระบายน้ำลงสู่น้ำโขงให้เร็วที่สุดป้องกันน้ำท่วมขังในชุมชนต่างๆ
นอกจากพื้นที่ชายแดนน้ำโขง ยังมีพื้นที่ติดลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน ลำน้ำสาขาสายหลักแม่น้ำโขง พื้นที่ อ.ศรีสงคราม อ.นาทม อ.โพนสวรรค์ อ.ศรีสงคราม ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขง ทำให้ลำน้ำสาขาไหลระบายลงน้ำโขงช้า เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวมากกว่า 1,000 ไร่ หากในสัปดาห์นี้ระดับน้ำโขงไม่ลดลง จะส่งผลให้นาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ระหว่างออกรวงรอการเก็บเกี่ยวได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด
ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย ขึ้นอย่างรวดเร็วอีกรอบ ซึ่งปีนี้ถือเป็นรอบที่ 4 แล้ว ล่าสุดระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ระดับ 9.28 เมตร เทียบกับช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้นถึง 48 ซม. ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 2.92 เมตร และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดพรุ่งนี้อาจสูงขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1 เมตร เนื่องจากระดับน้ำโขงทางตอนเหนือ คือที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย วันนี้มีระดับสูงขึ้นถึง 1.20 เมตร ซึ่งจะไหลมาถึงจังหวัดหนองคาย ภายใน 18-24 ชั่วโมงนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง
จากระดับน้ำโขงที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วครั้งนี้ จังหวัดได้แจ้งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งเตือนประชาชนริมฝั่งโขง ให้เตรียมการป้องกันอันตรายและความเสียหาย โดยเฉพาะเกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำโขง ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยว ขายอาหาร เรือโดยสารและประชาชนที่สัญจรทางน้ำ ให้ระมัดระวังอันตรายจากระดับน้ำที่สูงขึ้นด้วย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แหล่งข่าวมติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news/283070’>