LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

รวบหนุ่มบึงกาฬวัย20ปีฆ่าหั่นศพอุดรฯ-ฟันคอหนองบัวลำภู

หนองบัวลำภู ตำรวจได้หลักฐานมัดแน่นผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพอุดรธานีและฟันคอขาดที่หนองบัวลำภู เชื่อมโยง เป็นคนเดียวกัน หลังได้รถมอเตอร์ไซด์เจ้าของรถที่อุดรธานี นำไปทิ้งแช่น้ำที่หนองบัวลำภู ก่อนเดินเข้าในหมู่บ้านก่อเหตุใช้มีดไล่ฟันแทงชาวบ้านและถูกชาวบ้านจับได้

 

17 กันยายน 2559 – 18:18:23 น.

“เฉลิมเกียรติ” ร่วม ตร.พื้นที่ภาค 4 แถลงจับหนุ่มวัย 20 ปี ฆาตกรฆ่าหั่นศพต่อเนื่องใน จ.อุดรธานี-หนองบัวลำภู ให้การวกวนคล้ายคนเมายา เอารูปให้ดูรับว่าเป็นตัวเอง พยานชี้ตัวยืนยัน ขณะ ตร.สภ.นากลาง ตามเก็บของกลางได้หมดแล้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 59 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ตำรวจสืบสวนภาค 4, ภ.จว.อุดรธานี, ภ.จว.หนองบัวลำภู สภ.เมืองอุดรธานี สภ.สุวรรณคูหา และ สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสถาพร สีเชียงสา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 9 ต.โนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จับกุมได้ขณะก่อเหตุใช้มีดปาดคอ แทง ฟันชาวบ้าน พร้อมกับจับเด็กเป็นตัวประกันที่บ้านหนองด้วง ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู หลังก่อเหตุตั้งแต่วันที่ 15-16 ก.ย. ในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู จนชาวบ้านหวาดผวา (ชาวบ้านผวา ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าหั่นศพ เร่ง ตร.ช่วยจับโดยเร็ว)

พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การวกวนไปมา คล้ายคนเมาสารเสพติด โดยนำไปตรวจกลับไม่พบสารใดๆ อีกทั้งไม่พบวัตถุพยาน เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ของ นายปัญญา ทองศรี หนึ่งในผู้ถูกฆ่า เมื่อนำเอาภาพคนปั่นรถจักรยานที่ไปก่อเหตุฆ่า นายปัญญา มาให้ผู้ต้องหาดู ก็ยืนว่าเป็นรูปตัวเองที่ไปลักรถจักรยานในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปั่นไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย จากนั้นได้นำภาพคนเข็นรถจักรยานยนต์ของ นายปัญญา ให้ดู ก็บอกว่านำรถไปซ่อมเพราะสายพานขาด ตำรวจจึงนำพยานบุคคลซึ่งเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์มาชี้ตัว นายสถาพร ซึ่งพยานชี้ตัวยืนยันว่า เช้าวันที่ 15 ก.ย. นายสถาพร เข็นรถจักรยานยนต์มาให้ซ่อม เพราะสายพานขาด ค่าซ่อม 400 บาท และ นายสถาพร มีเงินจำนวนมากในกระเป๋า

รอง ผบ.ตร. “เฉลิมเกียรติ” ร่วม ตร.พื้นที่ภาค 4 แถลงข่าวจับกุมฆาตกรต่อเนื่อง

ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวสรุปว่า เชื่อว่าตำรวจจับคนร้ายไม่ผิดตัวแน่นอน แม้ว่าจะไม่มีวัตถุพยาน คือรถจักรยานยนต์ มีด เสื้อผ้าที่ใส่ขณะก่อเหตุ แต่มีประจักษ์พยานคือช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ก็สามารถทำให้เราดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ แต่ตำรวจจะได้ไปติดตามหาของกลางซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าทิ้งลงสระน้ำแต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่จุดใดมาให้ได้ และยังได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ เพื่อนำไปเปรียบเทียบในที่เกิดเหตุ เพื่อหลักฐานจะได้มัดแน่นเข้าไปอีก เบื้องต้นแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ชิงทรัพย์ ในท้องที่ อ.นากลาง ก่อน จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในพื้นที่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และ อ.เมืองอุดรธานี

ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ฝากถึงประชาชนว่า หากใครพบเห็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีแดงขาว ทะเบียน 1กข7659 อุดรธานี มีด เสื้อผ้า ถูกทิ้งไว้ที่ใดให้ช่วยแจ้งตำรวจในพื้นที่ เพราะคือวัตถุพยานสำคัญที่จะมัดตัวคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าหั่นศพต่อเนื่องในท้องที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติคนร้าย พบว่าเมื่อ 2 เดือนก่อนถูกตำรวจจับข้อหาเสพยาบ้าวันละ 10 เม็ด และก่อเหตุลักทรัพย์ใน จ.บึงกาฬ ไม่เคยเข้ารับการรักษาทางจิตที่โรงพยาบาลใด เร่ร่อนมาอาศัยอยู่ที่สนามทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้นก่อเหตุสะเทือนขวัญ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาก็จะถูกดำเนินคดี และจะต้องมีการพิสูจน์โดยให้แพทย์ตรวจและระบุว่ามีอาการทางจิตหรือไม่

ชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวมามุงดูการทำแผน
จนท.พาตัวฆาตกรทำแผนและชี้จุดเกิดเหตุ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากฆ่าหั่นศพ นายปัญญา ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้านโนนสวรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี ซึ่ง นายปัญญา นั่งอยู่แคร่ไม้ คนร้ายใช้มีดฟันคอ ต่อมาเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี และเหตุฆ่าฟันคอที่ถนนบ้านราษฎร์เกษมศรี-โนนงาม ต.นาดี อ.สวุรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งทุกจุดมีชาวบ้านมามุงดูด้วยความสนใจเป็นจำนวนมาก

ต่อมา พ.ต.ท.สมใจ รักศิลป์ สวป.สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน และกำนันตำบลด่านช้าง อ.นากลาง ว่า นายศุภศักดิ์ วงศ์นิคม อายุ 49 ปี ชาวบ้าน อ.นากลาง ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ขณะไปตัดหญ้าที่กระท่อมนาซึ่งติดกับห้วยลำพะเนียง พบชายคนหนึ่งอยู่ในลำห้วยจึงสอบถาม ชายดังกล่าวตอบว่ามาหาปลา แต่ตนเห็นเสื้อผ้าและธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท 100 บาท และ 20 บาท ตากอยู่บนหญ้าก็ไม่ได้สนใจ

จยย.ของผู้ตายที่ฆาตกรนำมาทิ้งให้ลำห้วย (ภาพจากตำรวจ สภ.นากลาง)

กระทั่งเห็นข่าวพบว่าเป็นคนเดียวกับที่พบ จึงมาแจ้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านทราบ พ.ต.ท.สมใจ จึงออกติดตามถามหารถจักรยานยนต์ จนพบถูกทิ้งอยู่ในลำห้วย และยังพบกางเกงยีนส์ หมวกแก๊ปที่นายสถาพรใส่หลบหนี นอกจากนี้พบบัตรประชาชนของ นายปัญญา ผู้ตายที่ถูกฆ่าหั่นศพอยู่ใต้เบาะรถ ถุงยา รพ.สต.นาดี อ.สุวรรณคูหา ซึ่งอาจว่าจะเป็นของ นายสำราญ ศรีมุงคุณ ที่ถูกฆ่าตัดคอที่ถนนบ้านราษฎร์เกษมศรี-โนนงาม ต.นาดี จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งพิสูจน์หลักฐานมาเก็บวัตถุพยานให้พนักงานสอบสวนส่งตรวจยืนยัน เพื่อเป็นการปิดคดีฆาตกรต่อเนื่อง.

gregrehgrt546htrjty

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 17 กันยายน 2559 พ.ต.ท.สุภี พลดงนอก รอง ผกก.ป.สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน สภ.นากลาง ที่ออกตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ในการก่อคดีของนายสถาพร สีเชียงสา อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 9 ต.โนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทงนายพลเทียน โสภา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 4 บ้านโนนสวรรค์ ต.อุทัยสวรรค์ กับนางเหง่า ดอนปราบ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่บ้านเดียวกัน ได้รับเจ็บสองคน พร้อมกับจับเด็กชายอายุ 1 ปี 1 เดือน หลานของนางเหง่า ดอนปราบ ขึ้นรถจักรยายนต์หลบหนีไป ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และรู้ข่าวต่างช่วยกันขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกติดตามและจับได้ที่บ้านหนองด้วง ตำบลเดียวกัน ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร โดยนายพลเทียน โสภา ได้รับบาดเจ็บที่ลำคอ ด้านหลัง เป็นแผลรอยมีดแดงตามตัวและมีบาดแผลที่มือเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอนากลาง ส่วนนางเหง่า ดอนปราบ ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลบริเวณคอด้านหลัง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนากลาง ส่วนหลานชายชาวบ้านช่วยมาได้ไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากลักษณะของการก่อเหตุของผู้ต้องหาทำให้น่าจะเชื่อมโยงกับคดีของการฆ่าหั่นศพนายปัญญา ทองศรี อายุ 50 ปี บ้านโนนสวรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 และใช้มีดฟันคอ สำราญ ศรีมุงคุณ อายุ 61 ปี บ้านโนนงาม ต.นาดี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ในช่วงเช้าวันที่ 16 กันยายน 2559 ซึ่งพฤติกรรมของคนร้ายมีลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามนำพยานจาก ทั้ง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ที่ผู้ต้องหารายนี้ขับรถมอเตอร์ไซด์ผ่าน และพยานจาก อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ที่เห็นบุคคลดังกล่าวต่างเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันนั้น แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมรับ รับแต่เพียงว่าได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายชาวบ้านในพื้นที่อำเภอนากลางเท่านั้น และจากการสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การว่า ได้ขับรถมอเตอร์ไซด์ มาจากพื้นที่อำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู แต่ไม่รู้เอาทิ้งไว้ไหน จำไม่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นากลาง ได้วางกำลังกันออกค้นหาและประสานไปยังผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้าน ในการออกติดตามหา รถมอเตอร์ไซด์กับเสื้อผ้าที่คนร้ายใส่มาก่อนจะมาก่อเหตุในพื้นที่อำเภอนากลาง ซึ่งได้รับแจ้งจากชุดสืบสวน สภ.นากลาง กับนางสาวสุภมาส สิงห์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านนากุดผึ้ง ต.ด่านช้าง และนายแสวง บัวใหญ่รักษา กำนันตำบลด่านช้าง ว่าพบรถมอเตอร์ไซด์กับเสื้อผ้า คาดว่าจะเป็นของคนร้าย อยู่ในที่นาของ นายศุภศักดิ์ วงศ์นิคม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 14 ต.ด่านช้าง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ หมู่บ้านนากุดผึ้ง ต.ด่านช้าง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบและเก็บหลักฐาน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ารถมอเตอร์ไซด์ฮอนด้า คลิก ไอ 125 ทะเบียน 1 กข.7659 อุดรธานี รถคันดังกล่าวถูกทิ้งอยู่ในห้วยริมที่นา ของ นายศุภศักดิ์ วงศ์นิคม พร้อมกันเสื้อผ้า กางเกงของคนร้ายที่ถอดทิ้งไว้ นอกจากนั้นยังพบว่าที่ใต้เบาะของรถมอเตอร์ไซด์ ได้มีเอกสารสำคัญ คือ บัตรประชาชนและเอกสารทะเบียนรถ เป็นของ นายปัญญา ทองศรี ที่ถูกฆ่าหั่นศพที่อุดรธานี อยู่ใต้เบาะรถคันดังกล่าว จึงทำให้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ ทำให้เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าหั่นศพที่ จ.อุดรธานี และฟันคอขาดที่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู และมาก่อเหตุใช้มีดไล่ฟันแทงที่ อ.นากลาง นั้นเป็นคนเดียวกัน
ทางด้าน พ.ต.ท.สุภี พลดงนอก รอง. ผกก.ป.สภ.นากลาง กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบในตอนนี้ก็มีความชัดเจนแล้วว่าที่กระทำผิดที่นากลาง นี่มีความเชื่อมโยงเป็นคน คนเดียวกันที่ได้ทำที่อุดรธานีและ อำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู แล้วมาก่อเหตุใช้อาวุธมีแทงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสองรายที่อำเภอนากลาง นั้นเป็นคนเดียวกัน เพราะมีเอกสารหลักฐานหลายอย่าง นอกจากรถมอเตอร์ไซด์ของผู้ตายที่อุดรธานีแล้ว ยังมีเอกสารสำคัญก็คือบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตที่ถูกฆ่าที่อุดรธานี อยู่ในรถด้วยจึงเป็นผู้ต้องหาคนเดียวกันร้อยเปอร์เซ็นต์
ทางด้านนายศุภศักดิ์ วงศ์นิคม เจ้าของที่นา กล่าวว่า เมื่อวานตนเองไปตัดหญ้าบริเวณคัน ในช่วงเวลาบ่ายได้เห็นคนร้ายอยู่ในน้ำบริเวณทีพบรถมอเตอร์ไซด์ และได้ถามว่าทำอะไร คนร้ายก็บอกว่าหาปลาและถามว่าเป็นใครมาจากไหนเพราะไม่คุ้นเคยเห็นหน้าและนำเงินหลายใบตากไว้ริมฝั่งแต่คนร้ายก็ตอบอ้ำอึ้งบอกเพียงแต่ว่าเงินที่ตากไว้เป็นของตนเอง ซึ่งเห็นว่าเป็นลักษณะการผิดสังเกตแล้ว จึงได้หนีไป และมาทราบข่าวผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายชาวบ้าน เมื่อมาดูรูปทำให้ทราบว่าเป็นคนเดียวกัน จึงได้แจ้งให้ทางผู้ใหญ่บ้านทราบว่า ก่อนก่อเหตุเห็นคนร้ายได้ไปแช่น้ำบอกว่าหาปลาในบริเวณดังกล่าว เมื่อแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดู ทำให้ทราบว่ามีรถมอเตอร์ไซด์แช่น้ำและทราบว่าเป็นคันที่ร้ายใช้ก่อเหตุ ก็รู้สึกกลัวย้อนหลังเหมือนกัน

‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด