ปีใหม่นี้เชิญท่องเที่ยวเชิงนิเวศในห้องเรียนธรรมชาติ/วนนันทนาการ ป่าภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ พบกับหินปลาวาฬ 3 ตัว ใกล้ริมแม่น้ำโขง สุดยอดแห่งอีสาน เดินทางจากตัวเมืองจังหวัดบึงกาฬ 25 กิโลเมตร พบกับมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่สวยงามของจังหวัดบึงกาฬ จุดชมวิวแม่น้ำโขงหินวาฬ 3 ตัว หินรถไฟ ลานปุ่มหิน พร้อมด้วยวัฒนธรรมประเพณีพี่น้องชาวอีสาน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนแห่งชาติ ที่ 154 ป่าภูสิงห์ (นายทรัพย์สิน โทร.081 708 0734)
..ข้อแนะนำปิดท้ายสำหรับการเตรียมตัวมาท่องเที่ยวห้องเรียนธรรมชาติแห่งนี้..
1.ไม่มีอาหาร-เครื่องดื่มจำหน่าย ท่านจะต้องเตรียมมาเองให้เพียงพอกับความต้องการ และโปรดรักษาความสะอาดด้วย
2.ไม่มีรถยนต์โดยสารประจำทางผ่านทางนี้ การมาเที่ยวต้องเป็นรถส่วนตัว หรือรถเช่าเท่านั้น
3.ไม่อนุญาตให้นำรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ขึ้นไปด้านบน
4.รถเก๋ง, รถตู้ อย่าเสี่ยงขึ้นไป
5.ห้องเรียนธรรมชาติภูสิงห์ สามารถรองรับกิจกรรมต่างๆ ดังนี้.-
-เดินป่าศึกษาธรรมชาติเรียนรู้สภาพป่า พืชพันธุ์ธรรมชาติ ธรณีวิทยา
-กางเต็นท์ค้างแรม
-ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชมวิว หน้าผา ก้อนหินรูปร่างต่างๆ
-ปั่นจักรยานเสือภูเขาชมธรรมชาติ
-ถ่ายภาพ กินข้าวป่า
6.ติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว, การเช่ารถ, การพักค้างแรม โดยตรงได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 088-563-8852 (คุณทรัพย์สิน)
และ 088-536-2717 (คุณเด่น)..
ปากทางเข้าห้องเรียนธรรมชาติ..
ตรงเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงบริเวณที่จอดรถ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว..
ลงทะเบียนนักท่องเที่ยว พร้อมช่วยค่าบำรุงรักษาสถานที่ (ตามศรัทธา)..
รถมอเตอร์ไซค์..หมดสิทธิ์ครับ ต้องจอดไว้ที่ลานจอดรถ แล้วเดินเท้า (แง่ว!!!)
1) หากเอารถมอเตอร์ไซค์มา ไม่แนะนำให้เดิน เพราะระยะทางไปจุดชมวิวแต่ละแห่งมันไกลกันมาก..ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่จริงๆ ควรวางแผนติดต่อเช่ารถไว้ก่อน (ผ่านเจ้าหน้าที่)
2) หากนำรถยนต์มาเอง จำพวกรถเก๋ง, รถตู้ ไม่สมควรเอาขึ้นไป เพราะสภาพทางค่อนข้างทุรกันดาร และแคบมาก อย่างเก่งก็คงขึ้นไปได้แค่ตัววัดเท่านั้น..
แผนผังการท่องเที่ยวคร่าวๆ โดยเราจะเริ่มต้นจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว..
แต่ในทริปนี้ ผมมีโอาสได้ไปไกลสุดแค่หินสามวาฬ..เนื่องจากจุดอื่นๆที่เหลือ ต้องเดินเท้า slow life เท่านั้น รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ อีกทั้งยังต้องเผื่อเวลาในการเดินทางและมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วยขะรับ..
ม่ะ!! เริ่มออกเดินทางกันได้แล้ว..
สภาพทางขึ้น ชันพอสมควร..ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง..
น้องๆ กลุ่มนี้ กำลังเดินขึ้นไปบนวัด..
ลานจอดรถก่อนถึงตัววัด..
มาถึงตัววัดแล้ว..
บริเวณลานจอดรถบนวัด..
จอดรถไว้แล้ว เป้าหมายแรกก็คือลานธรรมภูสิงห์..
เดินสิคร๊าบ..ป้ายเขาเขียนบอกไว้ทนโท่ โฮ๊ะๆๆๆ..
สภาพเส้นทางที่เราต้องก้าวเดินไป..
อ่างเก็บน้ำเล็กๆ วิวรายทางระหว่างเดิน..หน้าฝน น้ำเต็มๆ ท่าทางจะแจ่มแมว..
ถึงแล้ว..ลานธรรมภูสิงห์..
ไหว้พระเพื่อเป็นศิริมงคลกันก่อน..
ไปต่อกันที่จุดชมวิวลานธรรม..เดินไปตามทางที่มีป้ายบอกไว้..
ถึงแว้ว..โว๊ะ!! บรรยากาศดีแฮะ ยังกะทุ่งหญ้าสะวันนา (มั่วไปโน้น) 555..
ชมวิวทิวทัศน์..มองเห็นแม่น้ำโขง และทิวเขาทะมึนฝั่ง สปป.ลาว อยู่ลิบๆ
อ่ะ!! ซูม (สุดกำลังกล้อง+ฝีมือกากๆของคน) ได้แค่เนี้ย..
ย้ายก้น..เดินกลับมาที่ลานจอดรถ..เตรียมตัวขับรถไปจุดต่อไป..
ตัวอย่างสภาพเส้นทาง ซึ่งเหมาะสำหรับรถบางประเภทเท่านั้น..
ขับรถโขยกเขยกมาเรื่อยๆ แล้วแวะเข้าไปชม ส้างร้อยบ่อ..
ส้าง เป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่า บ่อน้ำ
สภาพเส้นทาง..ถึงตรงนี้ต้องเดินเข้ามานะครับ..
เจอศาลาอะไรหว่า..เข้าไปดูซักหน่อย..บรึ๋ย!! เงียบสงัดวิเวกวังเวงวิโหว๋เหว๋ดีแท้..
ไปต่อดีกว่า อยู่นานๆเดี๋ยวมีจิตหลอน..
ได้ชมซะที..ส้างร้อยบ่อ พร้อมทัศนียภาพโดยรอบ (ชมด้วยความระมัดระวังด้วย เดี๋ยวตกหน้าผานะเออ)
ย้อนกลับมาทางเดิม เลยไปอีกนิดจะเจอหินช้าง..เหมือนแฮะ..
ขยับต่อไปเรื่อยๆครับ..พบเจอกำแพงภูสิงห์..
มีน้องๆที่มาเที่ยว ช่วยเป็นแบบเพื่อเปรียบเทียบขนาดให้เห็นภาพ (ขอขอบคุณมา ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ)
ยาวไปๆ ตามเส้นทางรถ..ถ้าให้เดินคงไม่ไหวแน่ (ไกล & ลำบาก)
จุดชมวิวผาน้ำทิพย์..ดีงามพอได้เป็นกษัย (แต่ว่าหน้าผาสูงชัน ระมัดระวังด้วยนะคับ)
วาร์ปข้ามทางดินลูกรังปนทราย (แบบนี้)
มาถึงจุดชมวิวฤาษี และหินสามวาฬ..
ตรงนี้สามารถกางเต็นท์พักแรมได้..แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่มาด้วย..
มีศาลาเล็กๆ และห้องน้ำไว้คอยบริการ..
จุดชมวิวถ้ำฤาษี..
เจอกันอีกครั้งกับกลุ่มน้องๆ ขอยืมเป็นแบบหน่อยเด้อ..
เราจะไปแตะขอบฟ้า..
วิวโล่งๆกว้างๆ และภาพขยายให้เห็นแม่น้ำโขง..
เดินย้อนกลับมานิดนึง ไปชมหินสามวาฬ..
แดดเริ่มเปรี้ยงใส่กลางกบาลแล้ว ร้อนสิครับท่าน..
แอบยืมน้องๆมาเป็นแบบ..
น้องชายคนนี้กำลังถ่าย MV..555
ทัศนียภาพโดยรอบทั่วๆไป..
อยู่ตรงนี้ก็มองเห็นแม่น้ำโขง (ขอโทษทีที่วิวมันซ้ำๆ)..
จริงๆแล้ว จุดชมวิวตรงหินสามวาฬ ถ้าหากมาดูตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยงามมากครับ..
มุมนี้ผมไม่ได้ไปถ่ายภาพ เพราะว่าตอนนั้นร้อนเหลือกำลังแว้วววว..
บ่ายแก่ๆ พักดื่มน้ำ+รับประทานอาหารแบบง่ายๆกันก่อน..
เสร็จแล้ว ย้อนกลับไปทางเก่าที่ผ่านมา เพื่อแวะจุดชมวิวหินหัวช้าง..
รถเข้าไม่ได้ เดินเอานะจ๊ะญาติโยมสาธุชน..เหอๆๆ
ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ..
ลำบากลำบนเป็นบางครั้ง พอให้ร่างกาย(ผุๆแก่ๆ) ได้ออกกำลังกายบ้าง..
ถึงแว้วววว (แฮ่กๆๆ เหนื่อยจร้า)..
ยังกะอยู่บนหัวช้างจริงๆอ่ะ..
วิวโดยรวมกว้างๆ สวยงามครับ..
มองเห็นหินช้าง และจุดชมวิวส้างร้อยบ่อด้วย..
ซูมๆ ให้เห็นจุดชมวิวส้างร้อยบ่อ..
หันหลังมองกลับไป..หน้าผาสูงชันจร้า อย่ามัวเพลินเชียว ต้องมีสตินะ เดี๋ยวร่วง..555
วิวป่าไม้บนภูเขา..ดีงามอร่ามแท้..
‘>