LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

ปีใหม่นี้เชิญไปท่องเที่ยวเชิงนิเวศในห้องเรียนธรรมชาติ/วนนันทนาการ ป่าภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬกันเถอะ

ปีใหม่นี้เชิญท่องเที่ยวเชิงนิเวศในห้องเรียนธรรมชาติ/วนนันทนาการ ป่าภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ พบกับหินปลาวาฬ 3 ตัว ใกล้ริมแม่น้ำโขง สุดยอดแห่งอีสาน เดินทางจากตัวเมืองจังหวัดบึงกาฬ 25 กิโลเมตร พบกับมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่สวยงามของจังหวัดบึงกาฬ จุดชมวิวแม่น้ำโขงหินวาฬ 3 ตัว หินรถไฟ ลานปุ่มหิน พร้อมด้วยวัฒนธรรมประเพณีพี่น้องชาวอีสาน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนแห่งชาติ ที่ 154 ป่าภูสิงห์ (นายทรัพย์สิน  โทร.081 708 0734)

..ข้อแนะนำปิดท้ายสำหรับการเตรียมตัวมาท่องเที่ยวห้องเรียนธรรมชาติแห่งนี้..
1.ไม่มีอาหาร-เครื่องดื่มจำหน่าย ท่านจะต้องเตรียมมาเองให้เพียงพอกับความต้องการ และโปรดรักษาความสะอาดด้วย
2.ไม่มีรถยนต์โดยสารประจำทางผ่านทางนี้ การมาเที่ยวต้องเป็นรถส่วนตัว หรือรถเช่าเท่านั้น
3.ไม่อนุญาตให้นำรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ขึ้นไปด้านบน
4.รถเก๋ง, รถตู้ อย่าเสี่ยงขึ้นไป
5.ห้องเรียนธรรมชาติภูสิงห์ สามารถรองรับกิจกรรมต่างๆ ดังนี้.-
-เดินป่าศึกษาธรรมชาติเรียนรู้สภาพป่า พืชพันธุ์ธรรมชาติ ธรณีวิทยา
-กางเต็นท์ค้างแรม
-ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชมวิว หน้าผา ก้อนหินรูปร่างต่างๆ
-ปั่นจักรยานเสือภูเขาชมธรรมชาติ
-ถ่ายภาพ กินข้าวป่า
6.ติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว, การเช่ารถ, การพักค้างแรม โดยตรงได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 088-563-8852 (คุณทรัพย์สิน)
และ 088-536-2717 (คุณเด่น)..

ปากทางเข้าห้องเรียนธรรมชาติ..

ตรงเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ถึงบริเวณที่จอดรถ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว..


ลงทะเบียนนักท่องเที่ยว พร้อมช่วยค่าบำรุงรักษาสถานที่ (ตามศรัทธา)..

รถมอเตอร์ไซค์..หมดสิทธิ์ครับ ต้องจอดไว้ที่ลานจอดรถ แล้วเดินเท้า (แง่ว!!!)


1) หากเอารถมอเตอร์ไซค์มา ไม่แนะนำให้เดิน เพราะระยะทางไปจุดชมวิวแต่ละแห่งมันไกลกันมาก..ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่จริงๆ ควรวางแผนติดต่อเช่ารถไว้ก่อน (ผ่านเจ้าหน้าที่)
2) หากนำรถยนต์มาเอง จำพวกรถเก๋ง, รถตู้ ไม่สมควรเอาขึ้นไป เพราะสภาพทางค่อนข้างทุรกันดาร และแคบมาก อย่างเก่งก็คงขึ้นไปได้แค่ตัววัดเท่านั้น..


แผนผังการท่องเที่ยวคร่าวๆ โดยเราจะเริ่มต้นจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว..

แต่ในทริปนี้ ผมมีโอาสได้ไปไกลสุดแค่หินสามวาฬ..เนื่องจากจุดอื่นๆที่เหลือ ต้องเดินเท้า slow life เท่านั้น รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ อีกทั้งยังต้องเผื่อเวลาในการเดินทางและมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วยขะรับ..

ม่ะ!! เริ่มออกเดินทางกันได้แล้ว..
สภาพทางขึ้น ชันพอสมควร..ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง..
น้องๆ กลุ่มนี้ กำลังเดินขึ้นไปบนวัด..

ลานจอดรถก่อนถึงตัววัด..


มาถึงตัววัดแล้ว..

บริเวณลานจอดรถบนวัด..

จอดรถไว้แล้ว เป้าหมายแรกก็คือลานธรรมภูสิงห์..
เดินสิคร๊าบ..ป้ายเขาเขียนบอกไว้ทนโท่ โฮ๊ะๆๆๆ..

สภาพเส้นทางที่เราต้องก้าวเดินไป..

อ่างเก็บน้ำเล็กๆ วิวรายทางระหว่างเดิน..หน้าฝน น้ำเต็มๆ ท่าทางจะแจ่มแมว..

ถึงแล้ว..ลานธรรมภูสิงห์..


ไหว้พระเพื่อเป็นศิริมงคลกันก่อน..


ไปต่อกันที่จุดชมวิวลานธรรม..เดินไปตามทางที่มีป้ายบอกไว้..

ถึงแว้ว..โว๊ะ!! บรรยากาศดีแฮะ ยังกะทุ่งหญ้าสะวันนา (มั่วไปโน้น) 555..


ชมวิวทิวทัศน์..มองเห็นแม่น้ำโขง และทิวเขาทะมึนฝั่ง สปป.ลาว อยู่ลิบๆ

อ่ะ!! ซูม (สุดกำลังกล้อง+ฝีมือกากๆของคน) ได้แค่เนี้ย..

ย้ายก้น..เดินกลับมาที่ลานจอดรถ..เตรียมตัวขับรถไปจุดต่อไป..
ตัวอย่างสภาพเส้นทาง ซึ่งเหมาะสำหรับรถบางประเภทเท่านั้น..

ขับรถโขยกเขยกมาเรื่อยๆ แล้วแวะเข้าไปชม ส้างร้อยบ่อ..


ส้าง เป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่า บ่อน้ำ




สภาพเส้นทาง..ถึงตรงนี้ต้องเดินเข้ามานะครับ..

เจอศาลาอะไรหว่า..เข้าไปดูซักหน่อย..บรึ๋ย!! เงียบสงัดวิเวกวังเวงวิโหว๋เหว๋ดีแท้..

ไปต่อดีกว่า อยู่นานๆเดี๋ยวมีจิตหลอน..

ได้ชมซะที..ส้างร้อยบ่อ พร้อมทัศนียภาพโดยรอบ (ชมด้วยความระมัดระวังด้วย เดี๋ยวตกหน้าผานะเออ)




ย้อนกลับมาทางเดิม เลยไปอีกนิดจะเจอหินช้าง..เหมือนแฮะ..


ขยับต่อไปเรื่อยๆครับ..พบเจอกำแพงภูสิงห์..
มีน้องๆที่มาเที่ยว ช่วยเป็นแบบเพื่อเปรียบเทียบขนาดให้เห็นภาพ (ขอขอบคุณมา ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ)

ยาวไปๆ ตามเส้นทางรถ..ถ้าให้เดินคงไม่ไหวแน่ (ไกล & ลำบาก)
จุดชมวิวผาน้ำทิพย์..ดีงามพอได้เป็นกษัย (แต่ว่าหน้าผาสูงชัน ระมัดระวังด้วยนะคับ)


 

วาร์ปข้ามทางดินลูกรังปนทราย (แบบนี้)

มาถึงจุดชมวิวฤาษี และหินสามวาฬ..

ตรงนี้สามารถกางเต็นท์พักแรมได้..แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่มาด้วย..
มีศาลาเล็กๆ และห้องน้ำไว้คอยบริการ..

จุดชมวิวถ้ำฤาษี..

เจอกันอีกครั้งกับกลุ่มน้องๆ ขอยืมเป็นแบบหน่อยเด้อ..

เราจะไปแตะขอบฟ้า..

วิวโล่งๆกว้างๆ และภาพขยายให้เห็นแม่น้ำโขง..

เดินย้อนกลับมานิดนึง ไปชมหินสามวาฬ..


แดดเริ่มเปรี้ยงใส่กลางกบาลแล้ว ร้อนสิครับท่าน..

แอบยืมน้องๆมาเป็นแบบ..

น้องชายคนนี้กำลังถ่าย MV..555

ทัศนียภาพโดยรอบทั่วๆไป..

อยู่ตรงนี้ก็มองเห็นแม่น้ำโขง (ขอโทษทีที่วิวมันซ้ำๆ)..

จริงๆแล้ว จุดชมวิวตรงหินสามวาฬ ถ้าหากมาดูตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยงามมากครับ..
มุมนี้ผมไม่ได้ไปถ่ายภาพ เพราะว่าตอนนั้นร้อนเหลือกำลังแว้วววว..


 

บ่ายแก่ๆ พักดื่มน้ำ+รับประทานอาหารแบบง่ายๆกันก่อน..
เสร็จแล้ว ย้อนกลับไปทางเก่าที่ผ่านมา เพื่อแวะจุดชมวิวหินหัวช้าง..

รถเข้าไม่ได้ เดินเอานะจ๊ะญาติโยมสาธุชน..เหอๆๆ

ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ..


ลำบากลำบนเป็นบางครั้ง พอให้ร่างกาย(ผุๆแก่ๆ) ได้ออกกำลังกายบ้าง..

ถึงแว้วววว (แฮ่กๆๆ เหนื่อยจร้า)..

ยังกะอยู่บนหัวช้างจริงๆอ่ะ..

วิวโดยรวมกว้างๆ สวยงามครับ..
มองเห็นหินช้าง และจุดชมวิวส้างร้อยบ่อด้วย..


ซูมๆ ให้เห็นจุดชมวิวส้างร้อยบ่อ..

หันหลังมองกลับไป..หน้าผาสูงชันจร้า อย่ามัวเพลินเชียว ต้องมีสตินะ เดี๋ยวร่วง..555

วิวป่าไม้บนภูเขา..ดีงามอร่ามแท้..

 

s__4497812 s__4497813 s__4497814 s__4497816 1 2 3 4 5 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 s__4497811‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด