การปลูกพืชเกษตรเชิงเดี่ยว อย่างข้าว มันสำปะหลัง หรือยางพารา เกษตรกรทั่วไปคงทราบกันดีว่า ในยามราคาดี ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายรัฐ ราคาก็พุ่งสูงทำรายได้จำนวนมาก แต่เมื่อคราวราคาตก อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของโลก หรือนโยบายของรัฐ ปัญหาเกิดขึ้นทันที เพราะราคาจะดิ่งตกต่ำลงสุดๆ จนเกษตรกรบางคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวมาแล้ว
การเพิ่มมูลค่าเพิ่ม หรือการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า คืออีกหนึ่งวิธีการลดความเสี่ยง และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เช่นที่ จ.บึงกาฬ ที่มีการรวมกลุ่มสหกรณ์โดยได้รับการสนับสนุนจากจังหวัด และแกนนำท้องถิ่น ก่อให้เกิดโรงงานผลิตหมอนต้นแบบยางพาราที่ได้มาตรฐานแห่งแรกของบึงกาฬและภาคอีสาน จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปคุยกับ นายนิพนธ์ คนขยัน นายกฯอบจ.บึงกาฬ ในฐานะที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางจังหวัดบึงกาฬ เล่าให้ฟังตั้งแต่ที่มาของแนวคิดนี้ การแก้ปัญหา รวมถึงวิธีการผลิตหมอนกันเลยทีเดียว
นายนิพนธ์ เล่าว่า โรงงานดังกล่าวชื่อ “บึงกาฬรับเบอร์กรุ๊ป” ลงทุนโดยชุมนุมสหกรณ์ยางบึงกาฬ ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรสวนยาง มีสมาชิกประมาณ 5,000 คน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 37 ไร่ ใน ต.ตาเดี่ยว อ.เซกา จ.บึงกาฬ มีกำลังการผลิตหมอนยางพารา 300 ใบต่อวัน
ที่สำคัญข่าวดีอย่างมาก นายกฯอบจ.คนนี้เล่าว่า ขณะนี้ได้รับการอนุมัติงบฯกลุ่มจังหวัดจำนวน 193 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างโรงงานอีก 5 แห่ง ได้แก่ โรงงานหมอน โรงงานผลิตที่นอน โรงงานผลิตน้ำยางข้น โรงงานผลิตยางแผ่นรมควัน และโรงงานผลิตยางลูกขุน โดยเฉพาะโรงงานหมอนมีกำลังการผลิตถึง 6,000 ใบต่อวัน จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้บึงกาฬคึกคักมากขึ้น
โดยโรงงานแห่งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯได้เดินทางมาเปิดและฉีดหมอนตัวอย่าง ซึ่งในโรงงานกระบวนการผลิตสำคัญ จะมีเครื่องฉีดหมอน ที่จะใส่น้ำยางสด ก่อนนำน้ำยางมาใส่แม่พิมพ์หมอน และเข้าสู่กระบวนการนึ่งอบด้วยความร้อนสูง ประมาณ 45นาที ก็จะออกมาเป็นหมอนยางพารา ที่แกะออกจากแม่พิมพ์ได้ จากนั้นจะนำหมอนที่ได้มาล้าง และผ่านเครื่องรีดน้ำออกให้มากที่สุด ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการทำการอบด้วยความร้อนเพื่อให้หมอนแห้งนั่นเอง เมื่อเสร็จจากนั้นก็ปรับแต่งรูปร่างนิดหน่อย ก็เป็นอันได้หมอนยางพารา นำไปใส่ปอกหมอนให้สวยงามตามต้องการ พร้อมใช้งานทันที
เมื่อถามว่า ข้อดีของหมอนยางพารา คืออะไร นายนิพนธ์เล่า โดยอ้างการวิจัยของ นางนพรัตน์ วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการกลุ่มอุตสาหกรรมยาง สถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย ระบุว่าหมอนยางมีความยืดหยุ่น หมอนยางพารามีรูอากาศ เวลานอนสบาย ไม่แฟบง่าย เพราะเป็นยางพารา 100% ใช้สำหรับผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาลยังได้ ทั้งยังดูแลรักษาง่ายอีกด้วย เมื่อถามเรื่องอายุการใช้งาน นายกฯ อบจ.บึงกาฬ ยืนยันว่า ใช้งานได้ยาวๆ นานกว่า 5 ปี โดยในส่วนราคานั้น ยอมรับว่ายังไม่ได้มีการตั้งราคาอย่างจริงจัง เพราะโรงงานเพิ่งเปิด โดยจะมีคณะกรรมการสหกรณ์มารวมเรื่องต้นทุน น้ำยางสด ปลอกหมอน ค่าแรง ค่าไฟ และอุปกรณ์ต่างๆ โดยราคาในตลาดขณะนี้ หากขายให้ทัวร์ ทราบว่าที่พัทยา ราคาขึ้นไปถึง 4,000 กว่าบาทต่อใบ ขณะที่ในห้างราคาจะอยู่ที่ใบละพันกว่าบาท แต่ของสหกรณ์คาดว่าราคาไม่น่าจะเกินใบละ 500 เพราะเป็นยางเกษตรกรเอง หากปลอกดีหน่อย ราคาจะเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย
ทั้งนี้หากโรงงานที่ได้รับการอนุมัติเงินให้สร้างกว่า 193 ล้านบาทเสร็จ ก็จะผลิตหมอนได้ถึงวันละ 6,000 ใบ และผลิตที่นอนได้มากกว่าพันผืน น่าจะช่วยเกษตรกรทั่วประเทศได้ในอนาคต ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยาง เชื่อว่าตลาดมีอยู่สูงมาก เช่นการขายให้กับภาครัฐด้วยราคาต้นทุน โดยขณะนี้ในห้างสรรพสินค้ามีหมอนยางพาราขายแล้ว แต่ยังราคาแพงอยู่ โดยคนไทยหากอยากได้หมอน คาดว่าอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะเร่งกำลังการผลิต เพราะขณะนี้ยังเป็นขั้นตอนเพิ่งเริ่ม
เรื่องนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นไว้ว่า ในฐานะตัวเเทนของรัฐบาลต้องขอบคุณชาวบึงกาฬที่ไม่ท้อถอยที่ยืนหยัดต่อสู้เเละอดทนพากเพียรพยายามจนเกิดความสำเร็จมีชาวต่างประเทศชาวจีนเข้ามาจากนี้ก็อยู่ที่ชาวบึงกาฬเองที่จะต้องรักษาคุณภาพให้ได้ที่สำคัญเมื่อมีการรวมตัวเป็นกลุ่มสหกรณ์ บริหารจัดการจะต้องทำด้วยความมานะพยายามเเละซื่อสัตย์สุจริตเเละมีจิตสาธารณะในการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม อย่าให้มีปัญหาเกิดขึ้นตามมา
สำหรับท่านที่สนใจก็เตรียมหาซื้อกันได้เลย เรียกได้ว่าซื้อหมอนหนึ่งใบ ได้ใช้ของดี ราคาถูก ที่สำคัญเป็นการกระจายรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นอีกด้วย
ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1487567573‘>