สุดสยองลุงวัย 57 ปีที่บึงกาฬ ออกดักหนูนากลางทุ่ง โชคร้ายไปเจอสุนัขร็อตไวเลอร์ 3 ตัวแม่ลูกถูกปล่อยออกจากที่เลี้ยง จู่โจมรุมขย้ำกัดจนเสื้อผ้าขาดวิ่น กัดฟันชักมีดแทงสู้หวังรอดแต่ไม่รอด ถูกคมเขี้ยวฝังทั่วร่างดับอนาถในสภาพเปลือยกาย…
[videojs mp4=”http://www.thairath.co.th/video/2017/03/05/106670/hls_index.m3u8″ width=”640″ height=”360″ autoplay=”true”]เวลา 08.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ร.ต.อ.กังวาน โคตตะวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตอยู่ในทุ่งนาใกล้สวนยางพาราบ้านใหม่พัฒนา หมู่ 4 ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ. วินัย มหาผลศิริกุล ผกก.พ.ต.ท.จิตเกษม แก้วท่าไม้ รอง ผกก.(สอบสวน) แพทย์เวร รพ.ศรีวิไล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างศรีวิไลที่เกิดเหตุพบศพ นายสมหวัง ทองตัน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 351 หมู่ 4 บ้านใหม่พัฒนา ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล สภาพศพเปลือยกายนอนหงายเสียชีวิตอยู่ในทุ่งนาติดชายป่า มีบาดแผลถูกรอยคมเขี้ยวของสัตว์ขนาดใหญ่กัดเป็นแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกาย เลือดแห้งกรัง ในที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้จนหญ้าแหลกดินกระจุยเป็นบริเวณกว้าง มีรอยเท้าสัตว์หลายตัวเดินย่ำไปมา นอกจากนี้ยังพบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างออกไป 27 เมตร พบเสื้อและกางเกงของผู้ตายถูกกัดจนขาดรุ่งริ่ง ซึ่งสภาพศพเป็นที่น่าอเนจอนาถใจแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง
ใกล้ที่เกิดเหตุพบสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์สีดำ 3 ตัว เป็นเพศเมีย 1 ตัว และเพศผู้ 2 ตัว เดินวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ ที่แก้มขวาสุนัขตัวหนึ่งมีรอยถูกคมมีดกรีดเป็นแผลยาว เชื่อว่าจะถูกคมมีดของผู้ตายขณะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เบื้องต้นทราบว่าสุนัขทั้ง 3 ตัวเป็นของร้านรับซื้อของเก่า ที่อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุนัก
สอบสวนทราบว่า ก่อนพบกลายเป็นศพ นายสมหวังได้ออกจากบ้านไปเก็บบ่วงที่ทำเอาไว้ตามชายป่าเพื่อดักหนูนา ระหว่างเดินดูบ่วงคงเป็นจังหวะที่สุนัขแม่ลูก 3 ตัวที่หลุดจากกรงออกมาหากินพอดี จึงเกิดการประจันหน้ากันระหว่างคนกับสุนัขพันธุ์ดุ ขณะยังไม่ตั้งหลักจึงถูกสุนัขกระโจนจู่โจมเข้าขย้ำทั้ง 3 ตัวพร้อมกัน กัดกระชากเสื้อกางเกงของผู้ตายจนขาดแล้วฝังคมเขี้ยวไปทั่วร่าง ส่วนผู้ตายก็ชักมีดปลายแหลมออกมาต่อสู้แต่เนื่องจากสุนัขมีหลายตัว ไม่มีโอกาสได้ร้องขอความช่วยเหลือ ถูกรุมขย้ำกัดเป็นแผลเหวอะทั่วร่าง และสิ้นใจตายอย่างน่าอนาถดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาใคร เนื่องจากอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ประกอบกับมีคนงานดูแลสุนัขหลายคน ล่าสุดนางประไพ โพธิราช อายุ 72 ปี เจ้าของสุนัขได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความรับผิดชอบโดยได้ควักเงินจ่ายค่าทำศพเบื้องต้นแล้ว 30,000 บาท
ด้าน นายพันธุ์ คงอุ่น อดีตกำนันตำบลชมพูพร เพื่อนบ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุเล่ากับผู้สื่อข่าวฟังว่า สุนัขทั้ง 3 ตัวเห่าเสียงดังและดุมาก เจ้าของจะปล่อยออกมาทุกวันในช่วงเย็น ที่ผ่านมาสุนัขทั้ง 3 ตัวจะไปกัดไก่ วัวควายของชาวบ้านใกล้เคียงมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้กัดคนจนเสียชีวิตก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตักเตือนเจ้าของสุนัข จะขังหรือจะปล่อยก็ควรทำรั้วรอบขอบชิด อย่าปล่อยให้สุนัขออกมาสร้างความเดือดร้อน และอาจจะกัดคนตายแบบนี้อีกก็ได้.’>