ผุดสะพานข้ามโขง 5 เชื่อมบึงกาฬ-บอลิคำไซ ลาวได้แหล่งทุนแล้ว

สะพานข้ามโขงแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ใกล้ความเป็นจริง สปป.ลาว ได้แหล่งทุนแล้ว หอการค้าบึงกาฬชี้ จะช่วยเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจ โลจิสติกส์ เชื่อมลาว-จีน-เวียดนาม

นายเจตน์ เกตุจำนง ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างสะพาน ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ สปป.ลาวที่เริ่มต้นโครงการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ที่จะเป็นตัวเชื่อมโยงให้จังหวัดบึงกาฬและภาคอีสานของประเทศไทยกับภูมิภาคของโลก ใกล้ที่จะกลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว หลังจากที่เกิดปัญหาทุนก่อสร้างในส่วนของรัฐบาลลาว ล่าสุดรัฐบาลลาวได้แหล่งทุนต่างประเทศแล้ว และอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาถึงขั้นตอนผลต่างตอบแทน

“สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขง บึงกาฬ-บอลิคำไซ นั้น มีมูลค่าโครงการ ณ เวลานี้ประมาณอยู่ที่ 3,640 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาล สปป.ลาว โดยรัฐบาล สปป.ลาว จะรับผิดชอบงบก่อสร้างจำนวน 1,290 ล้านบาท”

ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ กล่าวต่อไปอีกว่า ซึ่งที่ผ่านมานระยะเวลาช่วงหนึ่งรัฐบาล สปป.ลาว มีปัญหาการจัดการบริหารงบประมาณในส่วนของความรับผิดชอบของรัฐบาลลาว ทำให้โครงการชะลอตัวอยู่ในระยะหนึ่ง แต่ล่าสุดทางหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า รัฐบาล สป.ลาว สามารถบรรลุข้อตกลงกับแหล่งทุน ที่ขอเก็บที่มาของแหล่งทุนในเบื้องต้น โดยมีเงื่อนหลักว่าแหล่งทุนกับรัฐบาล สปป.ลาว จะแลกผลตอบแทนในลักษณะซื้อขายแลกเปลี่ยนหรือ บาร์เตอร์ เทรด โดยรัฐบาลลาวอนุญาตให้แหล่งทุนดังกล่าวเข้ามาลงทุนด้านสัมปทานทรัพยากรธรรมชาติ

“ความพร้อมในพื้นที่ของส่วนโครงการของฝ่ายไทยนั้น จังหวัดบึงกาฬได้จัดทำงบประมาณปี พ.ศ. 2561 จำนวน 1,050 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายเป็นการก่อสร้างถนน 4 ช่องทางจราจร แยกจากทางหลวงหมายเลข 212 ตอน หนองคาย-บึงกาฬ เข้าสู่ตัวโครงการก่อสะพาน ระยะทางกว่า 12 ก.ม งบประมาณ 900 ล้านบาท และเป็นค่าเวนคืนที่ดินอีกจำนวน 150 ล้านบาท”

นายเจตน์ กล่าวอีกว่า ในมุมมองของภาคเอกชน ถึงผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลคำไซ สำเสร็จไปตามเป้าหมายของทั้ง 2 ประเทศแล้วนั้น จะบังเกิดแต่ผลดีทั้งในด้านการค้า เศรษฐกิจ การลงทุน การขยส่งระหว่างประเทศ การเดินทางไปมาหาสู่กันของประชาชนในภูมิภาคส่วนนี้ คือ ประเทศไทย สปป.ลาว เวียดนาม และส่วนหนึ่งประเทศจีนตอนใต้ รวมถึงการท่องเที่ยวที่จะเกิดการเชื่อมโยงกันมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

“ในส่วนของการเดินทางขนส่งสินค้า สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่วงที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซนี้ก็จะเป็นทางเลือกอีกเส้นทางหนึ่งนอกจากถนนหมายเลข 8 จากนครพนม-ท่าแขก ที่จะเดินทางขนส่งไปยังท่าเรือวุ่งอ่าง จังหวัดฮาติงห์ ระยะทางประมาณ 350 ก.ม. จากการที่จะต้องขนสินค้าลาองไปยังท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อมีถนนออกไปลาว ผ่านเวียดนามไปยังท่าเรือวุ่งอ่าง ระยะสั้นกว่า ค่าขนส่งก็จะถูกกว่า ระยะเวลาก็จะสั้นสะดวกกว่า เพราะสินค้าส่วนหนึ่งของไทยอย่ในภาคอีสานและภาคเหนือ โดยเฉพาะในการขนส่งผลิตผลยางพาราของจังหวัดบึงกาฬและภาคอีสานตอนบนออกไปตามเส้นทางดังกล่าว”

ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ด้านการลงทุน ทางจังหวัดบึงกาฬ ได้จัดแบ่งพื้นที่ห่างจากตัวสะพาน 2 จุด จุดแรกพื้นที่กว่า 1,700 ไร่เศษและจุดที่ 2 จำนวนกว่า 1,000 ไร่ ตั้งก็อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10 ก.ม. เพื่อเตรียมเอาไว้เป็นพื้นที่การลงทุนด้านต่างๆโดยเฉพาะการลงทุนการแปรรูปยางพารา เพื่อการส่งออก และย่านเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนี้แล้วทางจังหวัดก็ได้กันพื้นที่อีกกว่า 4,700ไร่ เอาไว้เพื่อใช้ในการก่อสร้างสนามบินในอนาคต ซึ่งทางจังหวัดก็ถูกบรรจุเข้าไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการแล้ว

ในส่วนของทางฝั่งของสปป.ลาว ได้กันพื้ที่บริเวณ 2 ข้างทางจากตัวสะพานไปถึงจุดเชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 13 ใต้ จำนวนประมาณ 800 เฮกตาร์(1 เฮกตาร์=6.25 ไร่) เอาไว้รองรับให้นักลงทุนต่างๆทั้งอุตสาหกรรมหนัก เบา เข้าไปใช้พื้นที่ และนักลงทุนต่างชาติที่ให้ความสนใจมากที่สุดคือ นักลงทุนจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เป็นต้น รวมทั้งเป็นสถานที่ตั้งศูนย์ราชการแห่งใหม่ของแขวงบอลิคำไซด้วย นอกจากนี้ในอนาคตทางแขวงบอลิคำไซ มีแผนงานจะทำการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองที่จุดแยกทางหมายเลข 13 ใต้ ด้านเหนือเมืองปากซัน ผ่านทิศตะวันออกของเมืองไปเชื่อมกับถนนหมายเลข 13 ใต้ ระยะทาง 22 กม.

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,255 วันที่ 23 – 26 เมษายน พ.ศ. 2560’>