สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ และจังหวัดนครพนม

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2560/05/30/Mobile/VNROY600530001000101_30052017_082501.mp4″ width=”640″ height=”360″ autoplay=”true”]

วันนี้ (30 พ.ค.2560) เวลา 09.26 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านห้วยดอกไม้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ

โรงเรียนนี้เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน 42 คน มี ครูตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ครู ตชด. 5 นาย และครูผู้ดูแลเด็ก 1 คน

ด้านการศึกษา มีการจัดกลุ่มนักเรียน เพื่อสอนเสริมความรู้ในสาระการเรียนรู้กลุ่มต่างๆ รวมทั้งจัดส่งครู ตชด. ไปอบรมในหลักสูตรต่างๆ เพื่อนำมาถ่ายทอดให้แก่นักเรียน ซึ่งการอ่านและเขียนของนักเรียน มีพัฒนาการที่ดีขึ้น

ด้านกิจกรรมสหกรณ์ มีการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานกิจการร้านค้าสหกรณ์ เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักการจัดทำบัญชี การวางแผนในการใช้จ่าย พร้อมทั้งปลูกฝังเรื่องคุณธรรมความซื่อสัตย์แก่นักเรียน โดยให้ผู้ซื้อจ่ายและทอนเงินด้วยตนเอง

ด้านโครงการส่งเสริมฝึกอาชีพ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ ไปสอนการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟางแก่นักเรียนและกลุ่มแม่บ้านในชุมชน เพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้แก่ครอบครัว

ส่วนโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ กลุ่มสมุนไพรชาวบ้าน ส่งเสริมให้ปลูกสมุนไพรท้องถิ่น นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนเพื่อสร้างอาชีพอีกด้วย อาทิ ลูกประคบสมุนไพร และขี้ผึ้งเสลดพังพอน

โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปตรวจรักษาราษฎร โดยมีผู้เข้ารับบริการจำนวน 94 คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคกระดูกและข้อ

เวลา 13.37 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ใต้ร่มพระบารมี (ธนาคารอาคารสงเคราะห์ อุปถัมภ์) อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร

โอกาสนี้ ทรงเปิด “อาคารเรียนอเนกประสงค์” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดสร้างขึ้น เป็นอาคารชั้นเดียว ขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 32 เมตร ประกอบด้วย ห้องพักครู และห้องเรียน รวม 8 ห้อง โดยโรงเรียนนี้เปิดทำการเรียนการสอน เมื่อปี 2558 ตั้งแต่ระดับปฐมวัย ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนรวม 95 คน ครู ตชด. 7 นาย และผู้ดูแลเด็ก 1 คน

โรงเรียนได้ดำเนินการตามโครงการพระราชดำริ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ด้านการศึกษา มีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เข้าไปช่วยเรื่องการส่งเสริมสื่อการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มคุณภาพทางการศึกษา รวมทั้งจัดอบรมครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ และ มหาวิทยาลัยนครพนม เข้าไปช่วยอบรมเรื่องมาตรฐานการศึกษาตัวบ่งชี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการพื้นที่ภายในโรงเรียนฯ ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ อาทิ การทำพื้นทางเดิน เป็นสระ พยัญชนะ ศัพท์ต่างๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นพื้นที่ให้นักเรียน ได้เล่นกิจกรรมพร้อมกับการเรียนรู้ควบคู่ไปด้วย

อีกทั้งมีห้องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอน และใช้สืบค้นข้อมูล

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงการจำลองสถานการณ์ในธนาคารเป็นภาษาอังกฤษ อันเป็นการพัฒนาความรู้ทางด้านภาษาให้แก่นักเรียน

ด้านการฝึกอาชีพ มีการใช้พื้นที่ภายในโรงเรียนปลูกต้นกก และนำผลผลิตที่ได้มาแปรรูป เป็นหมอนอิงและกล่องทิชชู รวมถึงการสานกระติ๊บข้าวจากไม้ไผ่ และการทอเสื่อ โดยครูและปราชญ์ชาวบ้านเป็นผู้ทำการสอน เป็นการสร้างรายได้และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการจัดการพื้นที่ เป็นแปลงปลูกพืชผักสวนครัว แปลงไม้ผลหลากหลายชนิด โรงเพาะเห็ด และพื้นที่ด้านการปศุสตว์

ทั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริขึ้นในโรงเรียน ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้เด็กและเยาวชน มีโภชนาการดี สุขภาพแข็งแรง ใฝ่เรียนรู้ ซื่อสัตย์ ประหยัด และอดทน มีความรู้และทักษะทางวิชาการและการอาชีพ เพื่อเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิต และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติ