วันที่ 1 มิ.ย.2560 เวลา 09.30 น.ข้าฯ นายทวิช กงเพชร ได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปยื่นต่อ ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) ที่ ศูนย์ราชฯ กทม. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กลับ ต่อ ร.ต.สรกฤช สุนารักษ์ พร้อมพวก ทหาร ร้อย รส.1331 ทั้งหมด ในข้อหา เป็น จพง.ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติ ปอ.ม.157,ขัดขวางการปฏิบัติงานของ จนท. ปอ.ม.138 ,หน่วงเหนี่ยว กักขัง ปอ.ม.310 ,ดูหมิ่น จพง. ปอ.ม.136,ข่มขื่นใจ จพง.ให้ปฏิบัติการอันมิชอบ ปอ.ม.139,กระทำการเป็น จพง.โดยตนมิได้มีอำนาจ ปอ.ม.149,ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด ปอ.ม.189,ประกอบ ปอ.ม.200 ,ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการไม่กระทำการ หรือจำนนต่อสิ่งใด ปอ.ม.309 และขอ เรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 5 ล้าน บาท โดยขอให้ บก.ปปป.ได้นำตัวบุคคลดังกล่าวข้างต้นมาฟ้องลงโทษให้ถึงที่สุด และยื่นต่อ บก.ปอท. ให้ดำเนินคดี กับ สำนักข่าวออนไลน์หนองคาย ข้อหาหมิ่นประมาท ปอ.ม.326 ประกอบ ม.328 และเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หน่วยงานทั่งสองได้รับ ไว้เพื่อดำเนินคดีแล้ว ครับ
เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2560 ที่ฝ่ายทหารเข้าจับกุมตนเองข้อหาเรียกรับสินบนจากนายวันเฉลิม วงชา อายุ 27 ปีนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงวันนั้นพวกตนกำลังจะจับกุมนายวันเฉลิม ในข้อหาให้สินบนกับเจ้าพนักงาน โดยมีการวางกำลังอาสาไว้ตามจุดต่างๆ 4-5 จุด บริเวณรอบๆ ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งหลังจากที่ตนรับเงินจากนายวันเฉลิมอยู่บนห้องทำงานชั้น 2 เป็นจำนวน 20,000 บาทแล้วเดินลงมาส่งนายวันเฉลิมข้างล่าง จึงจะส่งซิกให้ลูกน้องเข้าจับกุมตัวนายวันเฉลิมโดยมีการวางแผนและซักซ้อมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีทหารเข้ามาควบคุมตนเองก่อนแผนการที่วางไว้จึงต้องล้มเลิก
นายทวิช เล่าเหตุการณ์ก่อนที่จะตกเป็นผู้ต้องหาว่า ในค่ำวันที่ 7 พ.ค.2560 ได้ควบคุมตัวนายวันเฉลิม วงชา ขณะขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้สีขาว ทะเบียน บม.4105 สกลนคร ผ่านหน้า ร.ร.หนองฮูฟอยลม ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง แต่ตรวจค้นรถยนต์ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจปัสสาวะมีสีม่วง และรับว่ากำลังจะมารับเอายาบ้า 2,000 เม็ดจาก สปป.ลาวไปส่งให้เอเยนต์รายใหญ่ และนายวันเฉลิมขอต่อรองเป็นสายให้ เพื่อจะจับกุมเอเยนต์รายใหญ่ ซึ่งการทำงานครั้งนี้ก็ได้มีการบูรณาการหลายฝ่ายรวมทั้งทหารด้วย แต่เอกสารคู่มือรถที่นายวันเฉลิมขับมาไม่มี จึงขอยึดรถไว้ตรวจสอบและบอกให้นำเอกสารมาแสดงรับรถคืนไปในภายหลัง และในวันที่ 14 พ.ค.นายวันเฉลิมได้นำเอกสารคู่มือครอบครองรถมาแสดง ตนจึงได้คืนรถให้ไปพร้อมกับมีการบันทึกประจำวันไว้ด้วย และไม่มีการเรียบรับเงินใดๆ แม้แต่บาทเดียว โดยนายวันเฉลิมก็ไม่ได้บอกว่ามีอะไรหายไปบ้างตามที่เป็นข่าวเช่นกล้องติดหน้ารถ
ต่อมานายวันเฉลิมได้ติดต่อทางโทรศัพท์มาว่าจะขอนำยาบ้าผ่านเส้นทาง ขอให้อำนวยความสะดวกให้จะมีเงินมอบตอบแทน ตนจึงเออออไปด้วยเพราะได้วางแผนจะจับกุมนายวันเฉลิมอยู่แล้วเนื่องจากเป็นแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญ แต่การจะจับตรงๆ คงยากเพราะนายวันเฉลิมเหลี่ยมเยอะ จะต้องจับในข้อหาให้สินบนเจ้าพนักงานเท่านั้น แผนการจึงดำเนินมาด้วยดีตลอดจวนจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่ถูกกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์แจ้งฝ่ายทหารเข้าจับกุมตนก่อน ยอมรับว่าพลาดในเรื่องนี้ แต่ตนไม่ได้มีเจตนาทุจริตต่อหน้าที่หรือเรียกรับสินบนแต่อย่างใด ซึ่งจะขอต่อสู้เพื่อเรียกความเป็นธรรมให้กับตนเองให้ได้ จึงขอยืนยันว่าเงินที่นายวันเฉลิมอ้างว่าตนเรียกค่าไถ่รถ 100,000 บาทต่อรองเหลือ 60,000 บาทจ่ายไปแล้ว 35,000 บาทและมาจ่ายให้อีกวันที่ 24 พ.ค.2560 20,000 บาท เพราะรถนายวันเฉลิมก็รับไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2560 มีบันทึกส่งมอบด้วยจะมาจ่ายอีกทำไม จึงเป็นเรื่องเท็จ // นายทวิชกล่าวทิ้งท้าย.
‘>