นายแน่น จำปาลี ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางนาดง จำกัดและรองประธานชุมนุมสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทุกวันนี้เกษตรชาวสวนยางพาราเดือดร้อนมาก เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำ วันนี้เหลือยางก้อนถ้วยสดขายที่ลานรับซื้อที่ราคา 21 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนยางค้างคืนหรือยางประมูลรับซื้อที่ราคา 24 บาทต่อกิโลกรัม จะเห็นได้ว่าราคายางพาราตกลงทุกวัน จึงอยากขอร้องทางรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เกษตรชาวสวนยาง โดยการส่งเสริมสนับสนุนเงินให้กับสกรณ์กลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ของรัฐบาลเองได้มีเงินรับซื้อยางจากชาวสวน แล้วนำไปขายให้กับกลุ่มนายทุน เนื่องจากที่ผ่านมาสหกรณ์ได้นำยางพาราไปขายให้กับผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอเอกสารแบบฟอร์มสอบราคาได้ที่ทำการ สำนักงาน ฝ่ายโรงงาน 5 เลขที่ 123 หมู่ที่ 15 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี และฝ่ายโรงงาน 6 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ของการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งที่ 2แห่งเมื่อสกรณ์นำยางไปขายให้แล้วต้องมานัดวันจ่ายเงินให้ และเมื่อถึงวันนัดรับเงินกลับไม่ได้รับ อ้างว่าเงินไม่มีหรือเงินยังได้รับโอนจากรัฐบาล จากปัญหาดังกล่าวกลุ่มสหกรณ์จึงไม่ได้นำยางไปขายให้กับฝ่ายโรงงาน 5 และ 6 อีก
ประธานสหกรณ์กล่าวต่อไปว่า อยากให้รัฐบาลมีความจริงใจสนับสนุนได้มีการจัดตั้งสหกรณ์เพื่อรับซื้อยางจากชาวสวน โดยการอุดหนุนเงินเข้าสหกรณ์ไปรับซื้อน้ำยางหรือรับซื้อยางแผ่นจากชาวสวน และสนับสนุนให้มีการนำน้ำยางพาราไปทำถนนลาดยางอย่างที่มีการทดลองทำมาแล้วหลายจังหวัดรวมทั้งจังหวัดบึงกาฬด้วย ซึ่งการรับซื้อน้ำยางสดส่วนหนึ่งก็จะนำเข้าไปใช้ที่โรงงานผลิตที่นอนและหมอนจากยางพารา และนำไปผสมกับปูนซีเมนต์ทำถนนลาดยาง หากเหลือก็ทำเป็นยางแผ่นรมควันเก็บไว้ขาย ก็จะทำให้ยางก้อนถ้วยที่เกษตรเคยทำขายหายออกไปจากตลาดยาง ซึ่งก็จะผลทำให้ยางพารามีราคาสูงขึ้นตามไปนั่นเอง.’>