จ.บึงกาฬ รณรงค์เกษตรกรหันมาจำหน่ายน้ำยางแทนยางก้อนถ้วยรองรับโรงงานแปรรูปยางพารา

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2560/08/17/Mobile/VNOHT600817001023101_17082017_045542.mp4″ poster=”http://122.155.92.12/centerapp/Common/GetFile.aspx?FileUrl=~/Uploads/Image/2560/08/17/PNOHT600817001019202.jpg” width=”640″ height=”360″]

(17 ส.ค. 60) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบุ่งคล้า เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา “อนาคตทิศทาง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชาวสวนยางพาราจังหวัดบึงกาฬ” เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกรหันมาปรับเปลี่ยนแนวทางการจำหน่ายผลผลิตจากยางก้อนถ้วย มาเป็นน้ำยางสดในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวสวนยาง โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ มีผู้ร่วมเวทีเสวนาประกอบด้วย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ โดยมีเกษตรกรชาวสวนยางพารา อำเภอบุ่งคล้า จำนวน 300 คน ร่วมเวทีเสวนาและร่วมแสดงความคิดเห็น

นายขวัญประชา ระเริง นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ รักษาราชการแทน ประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวถึงการจัดงานในวันนี้ว่า ด้วยจังหวัดบึงกาฬ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ ได้กำหนดจัดเวทีเสวนา “อนาคตทิศทาง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชาวสวนยางพาราจังหวัดบึงกาฬ” ตามโครงการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจ ในอนาคตและทิศทางของชาวสวนยางพารา ในการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมเทคโนโลยี เพื่อการผลิตและแปรรูปยางพารา เพื่อให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการทำยางก้อนถ้วยเป็นน้ำยางสด โดยการจำหน่ายผ่านกระบวนการของสหกรณ์ เพื่อรองรับโรงงานแปรรูปยางพาราที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬประมาณกลางปี 2561 ซึ่งเบื้องต้นจะผลิตหมอนยางพารา และต่อยอดไปเป็นที่นอนยางพารา สนามเด็กเล่น ห้องเรียนเด็กเล็ก สนามยางพารารวมไปถึงการทำถนนยางพารา เพื่อเพิ่มมูลค่ายางพาราของจังหวัดบึงกาฬ โดยจะมีการจัดเวทีเสนาจนครบทั้ง 8 อำเภอ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงในการเดินหน้าโครงการดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อความเข้มแข็งและความกินดีอยู่ดีของเกษตรกรชาวสวนยางพาราจังหวัดบึงกาฬ

ทั้งนี้ จึงเชิญชวนเกษตรกรชาวสวนยางที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยสามารถสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์เพื่อจำหน่ายผลผลิตเป็นน้ำยางสด ซึ่งประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับคือ ราคาสูงขึ้นกว่ายางก้อนถ้วย สามารถลดต้นทุนและขั้นตอนการผลิตจากเดิมที่ใช้กรดเคมีเพื่อทำให้น้ำยางจับตัวเป็นก้อน ทำให้ประหยัดต้นทุน เวลาและแรงงาน และยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเกษตรกร และไม่เป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม อีกด้วย