รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬปฏิบัติภารกิจในการส่งเสริมอาชีพการปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มทางเลือกแก่เกษตรกร

[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2560/08/19/Mobile/VNOHT600819001011201_19082017_061615.mp4″ poster=”http://122.155.92.12/centerapp/Common/GetFile.aspx?FileUrl=~/Uploads/Image/2560/08/19/PNOHT600819001012501.JPG” width=”640″ height=”360″]

ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโซ่พิสัย อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ พร้อมเป็นประธานเปิดการฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาคุณภาพผลผลิตปาล์มน้ำมัน เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬทั้ง 8 อำเภอ พร้อมได้นำสินค้าธงฟ้าราคาถูกมาจำหน่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายในวันนี้มีไข่ไก่ราคาแผงละ 65 บาท น้ำตาลทรายถุงละ 15 บาท น้ำมันพืชขวดละ 35 บาท บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแพ๊คละ 40 บาท และข้าวสารถุงละ 120 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนมาซื้อสินค้าราคาถูกเป็นจำนวนมาก

นายสุรศักดิ์ เกษมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันแยกเป็นอำเภอเมืองบึงกาฬ 7,856 ไร่ อำเภอเซกา 5,939 ไร่ อำเภอโซ่พิสัย 5,062 ไร่ อำเภอบึงโขงหลง 2,692 ไร่ อำเภอบุ่งคล้า 2,127 ไร่ อำเภอศรีวิไล 1,779 ไร่ อำเภอปากคาด 1,500 ไร่และอำเภอพรเจริญ 887 ไร่ (ข้อมูลปี 2559) รวม 27,845.5 ไร่คิดเป็นร้อยละ1.67 จากพื้นที่เกษตรกรรมทั้งหมดของจังหวัดบึงกาฬ(มากเป็นอันดับ 3 รองจากยางพาราและข้าว)มีพื้นที่ให้ผลผลิตรวม 17,887.8 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต 10,618 ไร่ ผลผลิต 17,734 ตันเฉลี่ยต่อไร่ 1,670 กิโลกรัม

ด้านการตลาดเกษตรกรจะนำผลปาล์มน้ำมันมาจำหน่ายที่ลานรับซื้อ โดยการรับซื้อปาล์มน้ำมันของลานรับซื้อจะซื้อผลปาล์มในลักษณะแบบคละ(ผลสุก)ซึ่งในช่วงนี้ ก.ค. – ส.ค.60 ผลปาล์มของจังหวัดออกสู่ตลาดไม่มากนัก ภายหลังจากที่ผู้ประกอบการลานรับซื้อได้รับซื้อปาล์น้ำมันจากเกษตรกรแล้ว จะรวบรวมนำส่งจำหน่ายที่โรงงานสกัดน้ำมันในที่ต่างๆทั้งในจังหวัดบึงกาฬและจังหวัดใกล้เคียงทั้งหมด 11 ราย ด้านราคานับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 เป็นต้นมาจนถึงเดือนกรกฏาคม 2560 ราคาปาล์มน้ำมันของจังหวัดบึงกาฬปรับตัวลดลงมาโดยตลอด โดยในเดือนสิงหาคมปี 2559 ราคาปาล์มน้ำมันแบบคละ(ผลสุก)เฉลี่ยอยู่ที่ 6.20 บาท/กิโลกรัม ส่วนในเดือนกรกฏาคม 2560 ราคาเฉลี่ยตกลงมาอยู่ที่ 3.21 บาท/กิโลกรัมและขณะนี้ราคาลงมาอยู่ที่ 3.00 บาท/กิโลกรัม

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางลงพื้นที่บึงกาฬซึ่งทราบว่าในพื้นที่บึงกาฬเกิดน้ำท่วมนาข้าวได้รับความเสียหาย แต่ก็ได้มาเห็นเกษตรกรมีการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร เช่น ข้าว ตรงนี้อยากให้มีการเผยแพร่ให้ความรู้ในเรื่องกระบวนการผลิตและแปรรูปให้ครบทุกกระบวนการให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถนำไปทำเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ และในวันนี้มาติดตามในเรื่องของปาล์มน้ำมันซึ่งจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกตัวหนึ่งและจังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่ปลูกปาล์มเป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งสำคัญในการปลูกปาล์มน้ำมันคือต้องรักษาพันธุ์และคุณภาพของปาล์มให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาสายพันธ์ปาล์มน้ำมันให้ได้คุณภาพและจะมีการส่งเสริมตั้งแต่การปลูก แปรรูปและการจำหน่ายจนครบวงจร นอกจากนี้ผลิตจากปาล์มน้ำมันก็จะนำมาส่งเสริมการทำใบโอดีเซลล์ บี 10 และตอนนี้ได้มีการยกร่าง พรบ.ปาล์มน้ำมัน แล้วซึ่งทางกระทรวงเกษตรได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาคุณภาพและผลผลิตปาล์มน้ำมันต่อไป และอยากฝากให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ได้ศึกษาหาความรู้จากกลุ่มเกษตรกรด้วยกัน หรือกลุ่มผู้ผลิตปาล์มรายอื่นๆ ถึงวิธีการที่จะทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันขายได้ในราคาที่ดีและสูงขึ้น เช่น การฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาคุณภาพผลปาล์มน้ำมัน เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันในวันนี้ ที่จะสามารถช่วยให้เกษตรกรขายปาล์มน้ำมันได้ราคาดี เพียงแค่เกษตรกรต้องเก็บเกี่ยวผลปาล์มที่สุกแล้วเท่านั้น ก่อนที่จะนำออกมาขาย เพราะผลปาล์มที่สุกเปอร์เซนต์น้ำมันก็จะดีขายก็ได้ราคา ก็ขอฝากเกษตรกรเอาไว้ด้วย