ตำรวจบึงกาฬบุกชาร์ตรถต้องสงสัยหลังขับเข้าออกตามชายแดน สุดท้ายแค่รถเช็คสัญญาณมือถือ

บึงกาฬภาพบุกชาร์ตรถต้องสงสัยหลังขับเข้าออกตามชายแดนสุดท้ายรถเช็คสัญญาณมือถือตำรวจเตือนต้องติดโลโก้ให้ชัดเจน

วันนี้ 24 ส.ค. เวลา 14.00 น. ภาพเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ บุกเข้าชาร์ตผู้ต้องสงสัยขณะจอดรถยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน 5กภ-1070 กรุงเทพมหานคร ติดไฟแดงอยู่ที่บริเวณสี่แยกบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในหลายพื้นที่ของอำเภอเมืองบึงกาฬ ว่ารถยนต์คันดังกล่าวน่าสงสัยโดยขับรถเข้าออกตามหมู่บ้านอยู่หลายรอบขับวนไปวนมา น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม 2 ผู้ต้องสงสัยแล้วจึงคุมตัวพร้อมรถยนต์คันดังกล่าวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองบึงกาฬ

จากการสอบสวนทราบชื่อนายเฉลิมพร สระแก้ว อายุ 26 ปี และน.ส.ศุภษร สระแก้ว อายุ 28 ปี เป็นชาวจังหวัดนครพนม ซึ่งได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนทั้ง 2 ได้รับจ้างเหมาตรวจเช็คสัญญาณโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง โดยจะตระเวนตรวจเช็คสัญญาณไปตามระบบ GPS ที่ทางต้นสังกัดส่งมาให้ ซึ่งพวกตนก็ไม่รู้ว่าที่ไหนบ้าง หมู่บ้านไหนบ้าง ถนนไหนบ้าง ได้แต่ขับรถเช็คสัญญาณไปเรื่อยๆ โดยเข้ามาในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว กระทั่งมาวันนี้ก็ขับรถเช็คสัญญาณตามปกติ จนมาถึงสี่แยกสัญญาณไฟก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดล้อมจับกุมดังกล่าว

พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า จากการสอบสวนทั้ง 2 คนทราบว่าเป็นผู้รับเหมาตรวจเช็คสัญญาณโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่งจริง และจากการตรวจค้นรถยนต์หรือตัวผู้ต้องสงสัยไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใดพบเพียงอุปกรณ์โน๊ตบุค 2 เครื่องและโทรศัพท์มือถือ 3-5 เครื่องที่ใช้ค้นหาสัญญาณเท่านั้น จึงได้อธิบายขั้นตอนการปฏิบัติงานตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนให้ทราบ พร้อมทั้งได้ชี้แจงให้ทั้ง 2 คนทราบว่ามีประชาชนในหลายพื้นที่หลายหมู่บ้านแจ้งเข้ามาหาเจ้าหน้าที่ว่ารถยนต์คันดังกล่าวซึ่งเป็นป้ายต่างจังหวัดขับเข้า-ออก ภายในหมู่บ้านลักษณะต้องสงสัยขับวนไปวนมา ตลอดจนขับเข้าไปในเขตพื้นที่สีแดง ที่มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดอยู่เป็นประจำ หรือกระทั่งตามแนวชายแดนไทย-ลาว ที่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังของอำเภอเมืองบึงกาฬซึ่งหลังจากอธิบายให้ทั้ง 2 คนทราบแล้วก็ไม่ติดใจอะไร และยังได้กำชับให้ติดสติกเกอร์หรือโลโก้ของบริษัทที่รับเหมาให้ชัดเจนทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง เพื่อจะเป็นที่สังเกตุได้ง่ายและเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ ซึ่งทั้ง 2 คนก็รับปากหลังจากนี้กลับไปจะไปติดโลโก้ให้ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวพร้อมรถยนต์กลับไป

ขอขอบคุณข่าวที่มา มติชนออนไลน์ อ่านข่าวต่อได้ที่  https://www.matichon.co.th/news/640636‘>