บึงกาฬเด็กอายุแค่ 13 โจรวัยกระเตาะตระเวนลักทรัพย์ ตามบ้านพักทั่วเมืองบึงกาฬ

อายุเท่านี้ริอาจเป็นโจร! สภ.เมืองบึงกาฬ จับเด็กเร่ร่อนวัย 13 ปี ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ ตามบ้านพักของประชาชนทั่วเมืองบึงกาฬ ตรวจสอบพบของกลางจำนวนมาก ตั้งแต่แท็บเล็ตยันเครื่องสำอาง..

วันที่ 16 พ.ย.60 พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ สอบสวนเด็กชายพี นามสมมติ อายุ 13 ปี เด็กเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หลังเข้าไปตระเวนลักทรัพย์จากบ้านพักของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบึงกาฬ แล้วนำมาเก็บไว้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งภายในเขตเทศบาลตำบลวิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ตรวจสอบพบของกลาง ประกอบด้วย กระเป๋าเป้แบบสะพายหลัง 2 ชิ้น เครื่องเล่นแท็บเล็ต ยี่ห้อแอปเปิลสีขาว พร้อมอุปกรณ์ 1 ชุด เครื่องเล่นแท็บเล็ต ยี่ห้อซัมซุง รุ่น A8 สีขาว พร้อมอุปกรณ์ 1 ชุด เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อเอซุส สีเทาพร้อมอุปกรณ์ 1 ชุด รวมทั้งเงินต่างประเทศ และเครื่องสำอางอีกหลากหลายชนิด

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ประมาณ 10.00 น. ร.ต.อ.ชลธี เสาศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ ได้รับแจ้งจาก น.ส.อารดา ซื้อตระกูล อายุ 33 ปี ว่ามีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ ที่บริเวณห้องรับรองแขก บีบีรีสอร์ท บ้านบึงสวรรค์ ซึ่งมีทรัพย์สินที่ถูกลักไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนให้ตรวจสอบสัญญาณ จีพีเอส (GPS) จากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต จนไปปรากฏอยู่ที่บริเวณโรงแรมพงษ์อินทร์แมนชั่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ จึงได้ประสานข้อมูลกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลบุคคลต้องสงสัย

จนกระทั่ง พบเด็กชายพี นามสมมติ อายุ 13 ปี บุคคลต้องสงสัยยืนอยู่บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรม พร้อมกระเป๋าและสิ่งของ ซึ่งกำลังจะเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวสอบถามและขอตรวจสอบเบื้องต้น จากการตรวจสอบพบแท็บเล็ต ยี่ห้อแอปเปิลสีขาว ในถุงพลาสติกที่เด็กชายพี กำลังถืออยู่ ลักษณะตรงกับเครื่องที่แจ้งหายไว้ จึงได้ประสานผู้เสียหายมายืนยัน ว่าแท็บเล็ตเครื่องดังกล่าวเป็นของตน

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเบื้องต้นเด็กชายพี รับว่ามีทรัพย์สินหลายรายการที่ลักขโมยมาจากบ้านพักของประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬจริง และยังพบของกลางอีกหลายรายการอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่งภายในเขตเทศบาลตำบลวิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ซึ่งเด็กชายพี ใช้เป็นที่หลับนอน จากนี้ต้องรอผู้เสียหายมาแจ้งความและตรวจดูของกลางที่ตรวจยึดมาได้อีกครั้ง จึงนำตัวเด็กชายพีพร้อมของกลางที่ยึดได้ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป

ขอขอบคุณที่มา ที่มาไทยรัฐออนไลน์อ่านข่าวได้ที่ https://www.thairath.co.th/content/1128337‘>