จ.บึงกาฬ เปิดตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 2560/61 ราคารับซื้อสูงกว่าท้องตลาดตันละ 400 – 700 บาท

จังหวัดบึงกาฬ เปิดตลาดนัดข้าวเปลือกประจำปีการผลิต 2560/61 ที่สหกรณ์การเกษตรพรเจริญ จำกัด อำเภอพรเจริญ โดยข้าวหอมมะลิมีราคาสูงกว่าท้องตลาดถึงตันละ 400 – 700 บาท

วันนี้ (30 พ.ย. 60) เวลา 11.00 น. ที่สหกรณ์การเกษตรพรเจริญจำกัด ตำบลศรีชมภู อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 2560/61 จังหวัดบึงกาฬ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอพรเจริญ ประชาชน และเกษตรกรร่วมพิธี

นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกับ สหกรณ์การเกษตรพรเจริญ จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 2560/61 ที่สหกรณ์การเกษตรพรเจริญจำกัด บ้านหนองผักแว่น หมู่ที่ 4 ตำบลศรีชมภู อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นช่องทางให้เกษตรกรนำผลผลิตข้าวนาปี ปีการผลิต 2560/61 มาจำหน่าย ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์ด้านราคาจำหน่ายที่เหมาะสม และเป็นธรรม ทั้งด้านการชั่งน้ำหนัก การวัดความชื้น และการหักสิ่งเจือปน นอกจากนี้ยังจะได้ทราบถึงวิธีการชั่งตวงวัด การตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือก และการปรับปรุงคุณภาพข้าวให้ได้ตามความต้องการของตลาด ตลอดจนมีอำนาจต่อรองราคามากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนายกระดับคุณภาพการซื้อขาย

สำหรับการเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกครั้งนี้ มีกำหนด 3 วัน ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2560 ซึ่งวันแรกมีเกษตรกรสนใจนำข้าวเปลือกมาจำหน่ายประมาณ 60 ราย โดยมีราคารับซื้อ ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตันละ 13,200 บาท สูงกว่าท้องตลาดถึงตันละ 400 – 700 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกเหนียว กข6 และข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดสั้น ก็มีราคารับซื้อสูงกว่าท้องตลาดเช่นเดียวกัน

พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกครั้งต่อไป จะดำเนินการระหว่างวันที่ 7 – 9 ธันวาคม 2560 ที่ท่าข้าวเซกาใต้พืชผล อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

ด้านเกษตรกรที่นำข้าวมาจำหน่ายให้กับสหกรณ์ต่างรู้สึกพึงพอใจกับราคาที่ได้ พร้อมขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุนดูแลเกษตรกรไม่ให้ถูกเอาเปรียบ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการขั้นตอนต่างๆ ในการตรวจสอบคุณภาพของผลผลิต โดยเฉพาะการชั่งน้ำหนักที่มีมาตรฐานเป็นธรรม ส่วนสิ่งที่ต้องการให้ทางจังหวัดเข้ามาสนับสนุนคือการแปรรูปผลผลิตด้วยการตั้งโรงสีในรูปแบบของสหกรณ์ เพื่อเกษตรกรจะได้มีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนายกระดับคุณภาพการซื้อขายและการต่อรองราคา รวมถึงการพัฒนาคุณภาพผลผลิตต่อไป