กล้าลองกล้าลุยวันนี้ จะพาทุกท่านไปดูเบื้องหลังของอีกหนึ่งอาชีพ ที่ไม่ใช่แค่ต้องใช้แรงแบกหามอย่างเดียว แต่ยังต้องทนอยู่กับกลิ่นเฉพาะอย่าง “กลิ่นขี้ยาง” ให้ได้อีกด้วย อาชีพ “คนรับจ้างขึ้นขี้ยาง” เดือน ๆ หนึ่งรับเงินกันเป็นหมื่น เค้าทำงานกันอย่างไรบ้าง ไปติดตามชม
อีกหนึ่งอาชีพที่วันนี้ กล้าลองกล้าลุย พามาเกาะติด เชื่อว่าชาวสวนยางพาราแทบจะทุกคน ต่างคุ้นชินกับกลิ่นนี้เป็นอย่างดี เพราะทุกครั้งที่มาทำงาน ทั้งเนื้อทั้งตัวจะมีกลิ่นเฉพาะของขี้ยางติดตัวไปหลายวันเลย
ที่มาของ ขี้ยาง หรือ ยางก้อนถ้วย ในแต่ละพื้นที่ก็จะคล้าย ๆ กัน เมื่อเริ่มลงมีดกรีดยางในแต่ละวัน ตามเวลาที่สะดวกของเกษตรกรแล้ว จากนั้นจะปล่อยให้น้ำยางหยดลงในถ้วยรับน้ำยาง จนครบทุกต้น
จากนั้นก็ใส่สารละลายกรดลงไปในน้ำยาง เพื่อให้จับตัวกันเป็นก้อน จนมีสภาพเป็นแบบนี้ เมื่อขี้ยางเริ่มเต็มถ้วย ชาวสวนยางก็จะขนทั้งหมดไปที่ลานยางพาราเพื่อรอขายอีกที จากนี้ไปคือหน้าที่ของอาชีพคนรับจ้างขึ้นขี้ยาง
ในแต่ละวันเมื่อมีงานจ้าง ชาวบ้านในตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ จะมีคนขับรถมารับถึงบ้านเพื่อพาไปทำงานที่ลานยางพารา อาชีพที่เชื่อว่าหลายคนแค่เดินผ่านยังต้องรีบเดินหนี เพราะกลิ่นของขี้ยางนั้นรุนแรงมาก แต่สำหรับพวกเค้ามันคือแหล่งทำเงิน ที่เดือน ๆ หนึ่งรับเงินกันหลักหมื่นบาทขึ้นไป
อย่างที่สหกรณ์สวนยางบึงโขงหลง ก็จะมีงานจ้างขึ้นขี้ยางเป็นประจำทุกสัปดาห์
ขี้ยางแต่ละกระสอบ คนรับจ้างจะต้องลากมาทีละเจ้าเพื่อชั่งน้ำหนัก และหลังจากนั้นถึงจะโยนขึ้นไปจัดเรียงด้านบนรถบรรทุกพ่วงอีกที บอกเลยว่าตอนนี้กลิ่นของขี้ยางอบอวลไปทั่วเลย
ถึงกลิ่นจะแรงยังไง แต่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นอุปสรรคเลยแม้แต่น้อย ทุกคนจะรู้หน้าที่และช่วยกันทำให้เสร็จให้ไวที่สุด หนึ่งกระสอบจะมีน้ำหนักอย่างน้อยก็กระสอบละ 60-80 กิโลกรัม ไปจนถึงเป็นร้อยกิโลกรัมก็มี
เป็นงานที่ต้องอดทน หลายอย่างจริง ๆ สำหรับผมแล้วครั้งแรกกับการอยู่กับขี้ยางจำนวนมากแบบนี้ บอกได้เลยว่ามึนหัวมาก
กว่าที่ขี้ยางจะเต็มคันรถ ต้องช่วยกันแบกหามยกขึ้นมาไว้ด้านบนหลายหลายชั่วโมง
อาชีพคนรับจ้างขึ้นขี้ยางต้องระวังหลายอย่าง โดยเฉพาะสารละลายกรดที่ผสมอยู่ในขี้ยางระหว่างที่ทำงาน จึงต้องขยันล้างมือที่หยิบจับขี้ยางเพื่อลดการกัดผิวของสารละลายกรด
อาชีพนี้ทั้งเหม็นทั้งหนัก ถึงแม้รายได้จะดี แต่ร่างกายต้องพร้อมจริง ๆ
ค่าจ้างเค้าคิดเหมารวม แบกครบ 1 ตัน รับเงินทันที 150 บาท แบกได้เท่าไหร่ก็เอามาหารเฉลี่ยเท่ากันหมด
‘>