จ.บึงกาฬ หนาวยาวนานส่งผลดีต่อเกษตรกรที่ปลูกผักริมแม่น้ำโขง

อากาศหนาวเย็นยาวนานต่อเนื่องส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ที่ปลูกพืชผักสวนครัวตามริมแม่น้ำโขงขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว ผักที่ปลูกไว้เมื่อเจออากาศที่หนาวเย็นอุณหภูมิเหมาะสม ทำให้ต้นผักเจริญงอกงามอวบใหญ่ รสชาติ หวานกรอบ เป็นที่ชื่นชอบของตลาดขายได้ราคาดี

จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่แพร่ปกคลุมภาคอีสานตอนบนทำให้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงของอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เช้าวันนี้อุณหภูมิอยู่ที่ 17 องศาฯ จึงเป็นโอกาสทองของเกษตรกรในพื้นที่ที่ปลูกผักขาย ผักทุกชนิดที่ปลูกริมแม่น้ำโขงจะโตเร็วและมีลำต้นอวบใหญ่ มีคุณภาพดี รสชาติอร่อยกว่าปลูกในพื้นที่อื่นๆ และมีราคาถูกกว่า จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยเฉพาะในเช้าวันอังคาร และวันศุกร์ ชาวบ้านที่ปลูกผักในริมแม่น้ำโขงจะเร่งเก็บผักมาขายให้กับชาวไทยและชาว สปป.ลาว ที่ข้ามมาเลือกซื้อสินค้าในตลาดนัดไทย – ลาว มักจะซื้อติดไม้ติดมือนำกลับไปประกอบอาหาร ราคาผักที่ตัดขายในทุกวัน มีผักคะน้า 40 บาท/กก. ผักคะน้า(ขาใหญ่) 50 บาท/กก. ผักสลัด 50 บาท/กก. ต้นหอม กิโลละ 50 บาท ผักชีลาว กิโลละ 40 บาท กระเทียม กิโลละ 60 บาท บรอกโคลี กิโลละ 60 – 80 บาท และผักกวางตุ้ง กิโลละ 30 บาท เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ในหน้าหนาวของทุกปีชาวบ้านจึงนิยมปลูกพืชผักสวนครัวตามริมแม่น้ำโขงสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวเดือนละหลายพันบาท