เศร้า! สาวทอมบึงกาฬ 15 ปี ถูกลุงผัวป้าขืนใจ ก่อนพาออกทะเลหาปลาสลับบังคับข่มขืนเรื่อยมา ย่าเห็นผิดสังเกตท้องโต พาไปหาหมอ พบท้อง 6 เดือน ด้าน ย่าลั่นจะเอาผิดลูกเขยบ้ากามให้ถึงที่สุด…
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการประสานจากนายสงกรานต์ คำพิไสย์ อดีต ส.ส.จังหวัดหนองคาย ว่า มีหญิงสาวอายุ 15 ปี อาศัยอยู่กับพ่อและย่าที่ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีฐานะยากจน ถูกลุงข่มขืนจนท้องได้ 6 เดือน มาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวพบกับ น.ส.แดง (นามสมมติ) อยู่กับย่าและเพื่อนบ้านใกล้เคียงหลายคนมาคอยให้กำลังใจ
น.ส.แดง สาวทอม เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.2560 ได้ไปเยี่ยมป้า เป็นพี่สาวของพ่ออยู่ที่บ้านคันธุลี ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 1 อาทิตย์ต่อมา ตกกลางคืน นายมักกระสัน (นามสมมติ) เป็นสามีของป้าและมีศักดิ์เป็นลุง ได้ชักชวนไปให้อาหารปลากะพงที่เลี้ยงไว้อยู่ที่ริมคลอง ห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร หลังจากให้อาหารปลาเสร็จได้เข้าไปนอนพักในกระท่อมเผลอหลับไป ลุงได้เข้ามาในห้องใช้มืออุดปากตนไม่ให้ร้อง แล้วบังคับถอดเสื้อผ้าลงมือข่มขืน ทั้งๆ ที่ได้ยกมือขอร้องว่าอย่าทำเพราะตนเป็นทอมชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่ลุงก็ไม่ยอมฟัง ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แถมยังมีหน้ามาบอกว่าห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพราะมีแต่จะเสียหาย
หลังจากวันนั้นก็ได้พาตนออกทะเล ไปหาปลาเล็กมาทำเป็นอาหารเลี้ยงปลากะพง ก็ได้บังคับข่มขืนตนเรื่อยมา จึงคิดว่าถ้าหากอยู่ที่นี่ต่อไป ก็รังแต่จะถูกลุงข่มขืนอยู่เรื่อยไป จึงได้ออกอุบายว่าคิดถึงบ้าน ขอกลับไปเยี่ยมพ่อและย่า ลุงกับป้าให้เงินค่ารถ 1,000 บาท พอกลับมาอยู่บ้านประจำเดือนก็ไม่มา เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของสาวทอม แต่อนิจจาท้องก็เริ่มโต ทารกในท้องก็เริ่มดิ้น ทำให้ย่าสงสัยพาไปหาหมอตรวจครรภ์พบว่าตั้งท้องได้ 6 เดือนแล้ว พ่อและย่าเค้นสอบจึงยอมรับว่าถูกลุงข่มขืน
ด้าน ผู้เป็นย่า อายุ 67 ปี เมื่อทราบว่าหลานสาวท้องเพราะถูกลูกเขยผู้เป็นลุงข่มขืน จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายเกษม ว่าทำไมต้องมาทำกับหลานแบบนี้ ได้รับคำตอบว่าอยากให้หลานสาวที่เป็นทอมเป็นผู้หญิงจริงๆ ยินดีรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากปรึกษากับญาติพี่น้องแล้วจึงโทรกลับไปอีกครั้ง คราวนี้นายเกษมปฏิเสธ ว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ทำอะไรไม่รับผิดชอบ หลานมันใจแตกเอง ตนเสียใจมากจึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกเขยให้ถึงที่สุด แต่พวกตนมีฐานะยากจนไม่มีเงินที่มาใช้จ่ายหรือจ้างทนาย จึงอยากให้ทางราชการหรือส่วนเกี่ยวข้องมาช่วยเหลือด้วย
ส่วนนางสาวสุพัตรา อารีรมย์ นักจิตวิทยาบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า หลังจากมาพบกับครอบครัวน้องแดงผู้เสียหายแล้ว มีความประสงค์ยกลูกที่จะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ให้อยู่ในความอุปการะของบ้านพักเด็กและครอบครัวบึงกาฬ เบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท และจะพาไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานการถูกข่มขืนจนตั้งท้องที่ สภ.เมืองบึงกาฬ ก่อนที่จะให้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับลุงที่ข่มขืนหลานที่ สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่เกิดเหตุต่อไป หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย.
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1175122
‘>