บึงกาฬต่อยอดงานยางพารา เตรียมดันแหล่งเที่ยวชุมชน ดึงนักท่องเที่ยวเข้าจว.

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 17 – 23 มกราคมนี้ จังหวัดบึงกาฬได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดงานวันยางพาราและกาชาดจังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2561 ขึ้นภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชารุ่งเรือง เมืองศูนย์กลางยางพารา เกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า เปิดประตูการค้าอินโดจีน” นับเป็นงานยางพาราเอ็กซ์โปครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในอีสานที่จัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อแสดงให้เห็นความก้าวหน้าในด้านการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การศึกษา และการประกอบอาชีพด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย และเป็นการตอกย้ำว่า จังหวัดบึงกาฬเป็นเมืองศูนย์กลางยางพาราของภาคอีสานที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพร้อมที่ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราระดับอาเซียนในอนาคต และเพื่อเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาร่วมงานสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ จึงลงพื้นที่พบปะชาวบ้านห้วยเล็บมือ ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า หมู่บ้านสะง้อและหมู่บ้านหอคำ ตำบลหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเข้มแข็งที่มีศักยภาพพร้อมส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในกระบวนการท่องเที่ยวชุมชน ให้ชาวบ้านดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมานำเสนอ โชว์ความโดดเด่นของชุมชน ทั้งในด้านประเพณี วัฒนธรรม อาชีพต่างๆ และความสวยงามของสถานที่ พร้อมจัดเวทีเสวนานำชาวบ้านมาคุยพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นางบำเพ็ญพร สุริยกมล ผอ.สนง.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ในเรื่องการท่องเที่ยวถือว่าจังหวัดบึงกาฬนั้นยังเป็นเมืองน้องใหม่ที่ยังใหม่ สด และธรรมชาติยังสมบูรณ์ และเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีเขตพื้นที่ชุมน้ำโลกถึง 2 แห่ง คือกุดทิง และบึงโขงหลง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งทางธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม ตามวิถีชุมชน ว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยวชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งในปี 2561 นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีนโยบายท่องเที่ยวภายใต้ชื่อ “ปีท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” ซึ่งเน้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ฉะนั้นทางจังหวัดบึงกาฬโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ มอบหมายให้ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด พัฒนาในเรื่องการท่องเที่ยวชุมชนเป็นหลัก นิยามของการท่องเที่ยวในชุมชนนั้นไม่ได้อยู่กับสิ่งปลูกสร้างหรืออะไรที่ใหญ่โตมากมาย มันเป็นการร้อยเรียงเรื่องเล่า สู่สิ่งของ ยกตัวอย่างเช่น ตั้งแต่เข้ามาในเขตจังหวัดบึงกาฬ ผ่านอำเภอปากคาด ก็จะพบกับวัดถ้ำศรีธน ที่จะมีเรื่องเล่าขานมากมาย พอผ่านมาถึงอำเภอเมืองบึงกาฬ ก็จะมีวัดอาฮงศิลาวาส ที่มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจ เช่น ชุมชนบ้านสะง้อที่มี 3 ที่สุดคือ ลึกสุด เหนือสุด เก่าแก่ที่สุด และที่น่าสนใจคือวิถีชุมชนที่โดดเด่น คือ การรักษาภูมิปัญญาการทอผ้า อาชีพดั้งเดิมของชาวบ้านตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยการนำโคลนจากก้นสะดือแม่น้ำโขงมาย้อมผ้า จุดเด่นของผ้าทอนี้ไม่ใช่เพียงแต่สีสันที่เป็นธรรมชาติ แต่การย้อมผ้าและหมักนั้น ทำให้ผ้าทอของกลุ่มทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองบ้านสะง้อนั้น นุ่ม ทิ้งตัว และโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ถัดมาก็บ้านหอคำ ซึ่งห่างกันไม่ถึงกิโลก็จะมีสินค้าดีประจำชุมชนที่ชาวบ้านเขาทำเรียกได้ว่าพืชเกษตรปลอดสารพิษ คือ ลูกหยียักษ์ ที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำนั้นรวมตัวกันแปรรูปเป็นลูกหยีรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกหยีกวน หรือลูกหยีเชื่อม จำหน่ายเป็นสินค้าโอทอปของจังหวัดบึงกาฬ อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนนั่นก็คือ โฮมสเตย์ และอาหารท้องถิ่นที่มีให้บริการอีกด้วย หลังออกจากหอคำก็มุ่งหน้าไปที่ชุมชนห้วยเล็บมือ ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งอยู่ติดกับภูทอกน้อยเป็นภูเขาลูกหนึ่งติดกับแม่น้ำโขง อยู่ฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นจุดชมวิว โดยจะมีนักสื่อสารในท้องถิ่นพาเที่ยวชมลำน้ำโขงจนสุดลูกหู ลูกตา เห็นทิวทัศน์ของอำเภอบุ่งคล้า อำเภอเมือง และพื้นที่ของ สปป.ลาว ที่ติดลำน้ำโขงอีกหลายๆ หมู่บ้าน และภูทอกน้อยแห่งนี้ยังเป็นจุดที่พบต้นสิรินธรวัลลี ที่ได้เป็นต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัดบึงกาฬ และการทำไม้กวาดที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรมพร้อมนำกลับไปใช้ที่บ้านได้

โดยสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในจังหวัดบึงกาฬจะมีเว็บไซต์สามารถจองผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ เสร็จแล้วเดือนมีนาคมเริ่มทดลองสเต็ปแรกด้วยการนำหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดบึงกาฬ ออกท่องเที่ยวตามวิถีชุมชนต่างๆแล้วให้สะท้อนความคิดต่างๆ แล้วเราก็นำคอมเมนท์กลับไปยังชุมชน ต่อมาคือเชิญแต่ละชุมชนมาท่องเที่ยวกันเอง โดยใช้คำแนะนำที่เกิดขึ้นจากส่วนราชการที่ไปท่องเที่ยวก่อนหน้านี้มาบวกกับความคิดของแต่ละชุมชนที่ไปเที่ยวกันเอง ก็จะสรุปได้ว่านักท่องเที่ยวต้องการแบบไหน และในวันที่ 17 – 20 มกราคมนี้ ทางท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบึงกาฬได้เชิญผู้ประกอบการทัวร์เข้ามาท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม ตามวิถีชุมชนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ และเที่ยวชมการจัดงานวันยางพาราและกาชาดจังหวัดบึงกาฬไปพร้อมๆ กัน

ขอขอบคุณที่มาข่าว  https://www.matichon.co.th/news/805060




‘>