จ.บึงกาฬ พัฒนาที่ดินส่งเสริมเกษตรกรไถกลบตอซังข้าว

จังหวัดบึงกาฬ พัฒนาที่ดินส่งเสริมเกษตรกรไถกลบตอซังข้าว

วันนี้ (31 ม.ค. 61) เวลา 13.00 น. สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดบึงกาฬ จัดงาน “รณรงค์ไถกลบตอซังข้าวเพื่อปรับปรุงบำรุงดินและลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมแนะนำให้เกษตรกรชาวนาปลูกปอเทืองในพื้นที่นาหลังหมดฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อให้เป็นปุ๋ยพืชสด เสริมการปรับปรุงบำรุงดิน ในพื้นที่การเกษตร การไถกลบตอซังจะช่วยปรับปรุงบำรุงดินและฟื้นฟูสภาพดินเสื่อมโทรม ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรีย์วัตถุให้กับดินทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนการผลิตในภาวะ ปุ๋ยแพง เนื่องจากตอซังที่ทำการไถกลบสามารถใช้เป็นปุ๋ยหมักในการปรับปรุงหน้าดิน ทำให้ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ลงได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 น้อมนำมาปรับใช้ เพื่อให้ดินน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ โดยนายจำรัส กังน้อย นายอำเภอเมืองบึงกาฬ เป็นประธานในพิธี และมีประชาชน ในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ณ แปลงนาบ้านนาสวรรค์ หมู่ 1 ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

นายเกรียงไกร ไชยโพธิ์ ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า โครงการนี้ จัดทำเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้รู้ถึงประโยชน์จากการไถกลบตอซัง ที่ถูกต้องและเหมาะสม ให้เกษตรกรสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการสาธิตไถกลบตอซังข้าว นำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง เพื่อกระตุ้นและส่งเสริม ให้เกษตรกรได้เล็งเห็นความสําคัญ และประโยชน์ในการไถกลบตอซังข้าว แทนการเผาทิ้ง นอกจากเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุในดินแล้ว ยังช่วยปรับปรุงบํารุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ และยังช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนรวมถึงมลพิษทางอากาศจากการเผาตอซังข้าว และเป็นการลดต้นทุนการผลิต จึงรณรงค์ให้ชาวนาหันมาหว่านปอเทืองจากนั้นก็ทำการไถ่กลบรอให้เมล็ดปอเทืองเติบโต เมื่อทำการไถ่กลบแล้วต่อซังข้าวที่ย่อยสลายก็จะกลายมาเป็นสารอาหารของต้นปอเทืองต่อไป นับว่าได้ประโยชน์กว่าการเผาต่อซังข้าวทิ้ง ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและยังทำลายหน้าดิน ทำลายจุลินทรีย์ในดิน เกิดเป็นมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้เมื่อต้นปอเทืองออกดอกสีเหลืองสวยงามเต็มท้องทุ่งยังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปสวยๆ กับทุ่งปอเทืองได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมแข่งขันไถกลบตอซังข้าวด้วยรถไถนาเดินตาม เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในชุมชนให้เกิดขึ้น ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยการแข่งขันจะนำตัวแทนจากทุกหมู่บ้านในตำบลหมู่บ้านละ 1 คน พร้อมรถไถนาเดินตาม 1 คัน เข้าประจำลู่ที่เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้ รถคันไหนที่สามารถไถกลบตอซังข้าวได้เสร็จก่อนจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลที่ 1 จำนวน 900 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 700 บาท และรางวัลที่ 3 จำนวน 500 บาท และยังมีการจัดนิทรรศการ ให้ความรู้เรื่องการปรับปรุงบำรุงดิน การทำเกษตรแบบผสมผสาน เป็นต้น