จังหวัดบึงกาฬออกหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่บริการประชาชน

วันนี้ (25 เมษายน 2556) ที่โรงเรียนบ้านนาสะแบง ตำบลนาสะแบง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ นาย ธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นำทีมส่วนงานราชการออกหน่วยบริการจังหวัดเคลื่อนที่โดยมีหน่วยงานราชการต่างๆในจังหวัดบึงกาฬออกบูทบริการประชาชน และทั้งนี้ยังได้มีการมอบทุนการศึกษา ชุดนักเรียน ให้แก่เด็กนักเรียน มอบอุปกรณ์กีฬาไห้กับโรงเรียน มอบเวชภัณฑ์ยา ถุงยังชีพ เสื้อผ้า และพันธุ์ปลา และทำพิธีมอบบัตรสินเชื่อเกษตรกร และโฉนดที่ดิน ให้กับประชาชน โดยมีประชาชนในพื้นที่มารับบริการเป็นจำนวนมาก

              นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ นายอำเภอศรีวิไลได้กล่าวถึงสภาพทั่วไปของอำเภอศรีวิไลว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ.2497-2498 มีราษฎรจากหลายท้องที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อพยพมาประกอบอาชีพทำนา ทำไร่ ในพื้นที่ป่าดงสีชมพู ป่าภูทอกใหญ่และเมื่ออยู่รวมกันมีประชากรเพิ่มมากขึ้นจึงได้ตั้งเป็นหมู่บ้านชมพูพร ตำบลชมพูพร อำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย ระหว่างปี พ.ศ. 2500-2520 ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ขยายอิทธิพลในพื้นที่อย่างรุนแรง ทางราชการจึงได้ก่อสร้างสถานที่ราชการและส่งเจ้าหน้าที่มาประจำเช่น สถานีตำรวจภูธรตำบลศรีวิไล กองบังคับการที่หมายเลข 2 (บก.ทม.2)สถานีอนามัย หมวดการทาง โรงเรียน ศูนย์พัฒนาตำบลขึ้น เมื่อปีพ.ศ. 2517 ได้มีเหตุการณ์เผาหมู่บ้านนาทราย อันเกี่ยวเนื่องกับการปราบปราม ผกค. ต่อมาในปีพ.ศ. 2520 กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งกำลังทหารเข้ามาประจำที่กองบังคับการที่หมายเลข 2 (บก.ทม.2)และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นศูนย์เผ้าตรวจชายแดนที่ 202 (ศฝด.202) เพื่อให้ความ คุ้มครองและดำเนินการทางการเมือง การทหารในพื้นที่ จนกระทั่งปี2525 เหตุการณ์จึงสงบลง เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2530 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศแบ่งเขตอำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอศรีวิไล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2531 มีการจัดสร้างที่ว่าการกิ่งอำเภอขึ้น ณ บริเวณกองบังคับการหมายเลข 2 เดิม(บก.ทม.2) ตั้งเป็นที่ว่าการกิ่งอำเภอศรีวิไล และเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2537 ได้มีพระราชกฤษฏีกายกฐานะกิ่งอำเภอศรีวิไลขึ้นเป็นอำเภอศรีวิไลซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2537 เป็นต้นมา อำเภอศรีวิไล มีพื้นที่ประมาณ 204,938 ไร่ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำสวน ทำไร่ พืชที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ปัจจุบันมีการปลูกยางพารา 72,203 ไร่ สวนยางพาราที่เปิดกรีดแล้ว จำนวน 49,533 ไร่และยังไม่เปิดกรีด 22,670 ไร่ มีประชากรรวมทั้งสิ้น 38,533 คน ชาย 19,420 คน หญิง 19,113 คน แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 5 ตำบล 41 หมู่บ้าน 1 เทศบาลตำบล 4 องค์การบริหารส่วนตำบล มีสถานทีท่องเที่ยวที่สำคัญคือ วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือวัดภูทอกที่คนส่วนใหญ่รู้จัก ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านนาคำแคน หมู่ที่ 6 ตำบลนาแสง จัดตั้งโดยพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เมื่อปี พ.ศ. 2512

               นายอำเภอศรีวิไลได้กล่าวต่อไปว่าอำเภอศรีวิไลมีปัญหาที่สำคัญคือปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และราคาต้นทุนการผลิตเช่นปุ๋ยยังมีราคาแพงและตลาดรับซื้อพาราในพื้นที่มีรายใหญ่เพียงรายเดียว นอกจากราคายางตกต่ำแล้วยังมีปัญหาการลักขโมยยางถ้วยที่กำลังกรีดจากต้นยางของชาวสวนยางและปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาภัยธรรมชาติซ้ำซากทั้งภัยแล้งและอุทกภัยเนื่องจากขาดแหล่งกักเก็บน้ำซึ่งลำห้วย ลำคลอง หนอง บึง ต่างๆตื้นเขินจึงไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งและระบายน้ำได้ในฤดูฝนได้ และอีกทั้งยังมีถนนบางแห่งขวางทางน้ำอยู่

               ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งในส่วนอำเภอและจังหวัดลงสำรวจพื้นที่และหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนต่อไป