จังหวัดบึงกาฬผนึกกำลังบูรณาการร่วมกันปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครั

          วันนี้ (30 เมษายน 2556) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมเดอะวันคอนเวนชั่นฮอล์ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อคุ้มครองพิทักษ์สิทธิป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และ ความรุนแรงในครอบครัว จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. 2556 โดยมีหน่วยงานที่มาร่วมลงนาม 16 หน่วยงานได้แก่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานอัยการจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานอัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานปกครองจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21 สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบึงกาฬ สำนักคุมประพฤติจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานจัดหางานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬ ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 76 จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งทั้ง 16 หน่วยงานจะกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานและประสานความร่วมมือบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อจะส่งผลให้เกิดความครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายของปัญหาภายไต้กฎหมายหลัก 3 ฉบับที่บังคับใช้ในการดูแลปัญหาดังกล่าวได้แก่ พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 และ พรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 โดยให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬเป็นผู้ประสานงานและเป็นศูนย์กลางการพัฒนาระบบฐานข้อมูล การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนการดำเนินกิจกรรม เพื่อป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหา โดยให้ทุกหน่วยงานรายงานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

           หากประชาชนในพื้นที่พบเห็นปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม การค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด บ้านพักเด็กและครอบครัว ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 76 สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัด สถานีตำรวจ เป็นต้น หรือช่องทางในการติดต่อแจ้งเหตุ คือ โทรสายด่วน 1300 แจ้งเหตุ ขอรับคำปรึกษา และบริการข้อมูลต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผ่านเว็บไซด์ www.osccthailand.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเรื่องด้วยตนเองผ่าน Mobile Application ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ