บึงกาฬ เจ้าหน้าที่รวบแก๊งค้าไม้เถื่อน ขนไม้ประดู่แลกยาบ้า-กัญชาจากลาว

พะยูงหมดป่าหาไม้ประดู่ไปแลกยาเสพติด 
เมื่อเวลา 01.00 นวันที่ 10 เม.ย.จากการสืบทราบของ พล ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ .4 และผอ.ศปทส.ภ.4 ว่าจะมีแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติลักลอบตัดไม้ประดู่ เพื่อจะนำไป แลกกับกัญชาและยาบ้า จากแก๊งค้ายาเสพติดจาก สปป.ลาว ที่บริเวณป่าข้างสวนยางพาราทางทิศตะวันออกบ้านบะยาว หมู่ที่ 8 ต.หนองยอง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งการ ให้ ร.ต.อ.ราชคฤห์ เฉิดละออ รอง สว.สส.ศปทส.ภ.4.สนธิกำลังกับ พ.ต.ท ปกรณ์ ปัญญามงคล สว.สส.สภ.ปากคาด ร.ต.ท.ศักดิ์สิงห์ พระสว่าง รอง สว.(ป.)กก.3 บก.ปทส.หน.ชุดสายตรวจบึงกาฬ-นครพนม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปากคาด นายไพรัชย์ วงศ์หน่อ หน.สนง.สปป.2 (ตอ./น)และ นายบัญชา เตียงงา จนท.ชุดสายตรวจวางแผนจับกุม ขณะขับรถเข้าไปถึงสวนยางพาราพบรถยนต์ 2 คัน ขับตามหลังกันมาโดยคันแรกเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้สีเทา ตอนเดียว ทะเบียน ถพ 7693 กรุงเทพมหานครซึ่งต่อเป็นตู้ทึบด้านหลังกระบะคล้ายรถวิ่งส่งสินค้า ได้วิ่งนำหน้าคันที่ 2 เป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยรุน AVANZA สีดำ ทะเบียน สฏ 4395 ขอนแก่น

 

 

จับลักลอบแปรรูปไม้ได้ยาบ้าแถมท่าทางมีพิรุธจึงแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อคนขับเห็นเป็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถถอยหลังหนีอย่างรวดเร็วไปชนเข้ากับรถเก๋งที่วิ่งตามยังไม่ทันระวังจนหน้ารถยุบ คนขับและผู้โดยสารได้โอกาสจึงเปิดประตูวิ่งหลบหนีฝ่าความมืดไปด้วยความชำนาญทาง ส่วนคนขับกระบะโตโยต้าถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้ทราบชื่อ นายจรินทร์ โกษาเกส อายุ 32 ปีบ้านเลขที่ 82 หมู่ 3 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ค้นในกระเป๋าสะพายสีดำพบเงินสดจำนวน 20,000 บาทและยาบ้าบรรจุในถุงชนิดกดปิดดึงเปิดจำนวน 28 เม็ด ส่วนท้ายกระบะโตโยต้า วีโก้พบไม้ประดู่แปรรูปจำนวน 21 แผ่น/เหลี่ยมและตรวจค้นรถเก๋ง Toyota Avanza พบไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 8 แผ่น/เหลี่ยมรวมไม้ประดู่ 29 แผ่นปริมาตร 3.41 ลูกบาศก์เมตร จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมกับแจ้งข้อหานายจรินทร์ว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกับพวกที่หลบหนี มีไม้หวงห้ามแปรรูป (ไม้ประดู่)ไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรโดยไม่อนุญาต ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้หวงห้ามอันคนรู้อยู่แล้วว่าได้มาโดยผิดกฎหมาย
ร.ต.อ.ราชคฤห์ กล่าวว่าจากการสอบสวนนายจรินทร์ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ว่าจ้างคนรู้จักแปรรูปไม้ประดู่ให้ เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท สวนไม้ที่แปรรูปแล้วก็จะนำไปแลกกัญชาและยาบ้า จากแก๊งค้ายาเสพติดชาวลาว ส่วนยาบ้าที่จับได้ก็นำมาขายให้กับมือเลื่อยที่ว่าจ้างมา ซึ่งปัจจุบันไม้พะยูงต้นใหญ่หมดจากป่าไปแล้ว คงมีเหลือแต่ในวัดและโรงเรียนที่แก๊งค้าไม้พะยูงลักลอบแอบเข้าไปตัดนำไปขาย แต่ก็เสี่ยงที่จะถูกจับ เนื่องจากทั้ง 2 แห่งจะอยู่ใกล้ชุมชนมาก.

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ




 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ‘>