นายสา แสงสว่าง ผอ.ทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบตัดไม้พะยูงในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ด้านฝั่งบ้านโคกกว้าง หมู่ 1 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จึงสั่งการให้ นายทรัพย์สิน จงดี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.4 (เซกา ) สนธิกำลังกับ ร.อ.กล้า ชัยวงษ์ ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 2107 บึงกาฬ พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ พ.ต.ท.เจษฎา กายะ รอง ผกก.สส.สภ.บุ่งคล้า ร.ต.ต.สันติชัย รมพิพัฒน์ ตร.กก.3 บก.ปทส.บึงกาฬ นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จนท.ชุดข่าว ศปก.ทบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี จนท.โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สนธิกำลังวางแผนเข้าจับกุม กระทั่งเวลา 00.50 น.วันที่ 12 พ.ค.56 พบรถไถนาเดินตามยี่ห้อคูโบต้าติดพ่วงท้ายบรรทุกไม้พะยูงออกจากป่าภูวัวมาตามทางลูกรัง โดยมีชาย 2 คนนั่งมาบนรถ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทั้ง 2 คนได้กระโดดลงจากรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าหนีไปได้ด้วยความชำนาญทาง หลังจากนั้นตรวจพบเป็นไม้พะยูงที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ ยาว 2 เมตร ขนาด 1 คนโอบจำนวน 1 ท่อน ส่วนอีก 10 ท่อนเป็นไม้พะยูงเก่า รวมปริมาตร 0.306 ลูกบาศก์เมตร จึงยึดไว้เป็นของกลาง
ระหว่างทางที่เจ้าหน้าที่นำของกลางออกจากป่า ได้พบรถปิกอัพยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ไม่ทราบสีและทะเบียน จอดขวางทางเปิดไฟหน้ารถส่องสว่างเข้าหาเจ้าหน้าที่ จึงได้ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าไปหลายนัด ฝ่ายตรงข้ามจึงได้ถอยรถหนีออกจากป่าไปอย่างรวดเร็ว
นายทรัพย์สิน กล่าวว่าน่าจะเป็นกลุ่มของแก๊งค้าไม้พะยูงที่มากันประมาณ 8 คนหวังจะมาปิดถนนเพื่อข่มขู่บีบให้เจ้าหน้าที่กลัวแล้วปล่อยทิ้งของกลาง แต่เนื่องจากมีทหารพรานเข้ามาร่วมปฏิบัติงานครั้งนี้ด้วย จึงได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงขู่ขึ้นฟ้าไปหลายนัดแก๊งค้าไม้พะยูงจึงยอมล่าถอยไป จึงนำของกลางมามอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า สืบหาตัวแก๊งค้าไม้พะยูงกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป‘>