บึงกาฬเกษตรกรปรับเปลี่ยนทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกผักอินทรีย์ ผักปลอดสารพิษ อีกหนึ่งรายได้เสริมของเกษตรกรบึงกาฬ นอกจากการปลูกยางพาราที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดบึงกาฬ

วันนี้ (27 เม.ย. 61) เวลา 09.30 น. ณ สำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ นายสมรัก ภูเดช เกษตรจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทุกๆ คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหาร ผักอินทรีย์ ผักปลอดสารพิษ จึงมีความต้องการเป็นอย่างมากในจังหวัดบึงกาฬ ในแต่ละเดือนจังหวัดบึงกาฬต้องนำเข้าผัก จากพื้นที่จังหวัดอื่นเดือนละหลายๆ ตันเพื่อนำมาบริโภคให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกผักปลอดสารพิษไว้สำหรับบริโภคเองและจำหน่าย โดยมีพื้นที่ปลูกผักอินทรีย์ ผักปลอดสารพิษ ที่อำเภอศรีวิไล เป็นแหล่งเรียนรู้แบบผสมผสาน พื้นที่ปลูกประมาณ 2 ไร่ เป็นผักกางมุ้ง 2 งาน มุ้ง 5 หลัง ผักที่ปลูกได้แก่ ผักกวางตุ้ง แตงกวา ผักบุ้ง คะน้า บล็อกโคลี่ ผักสลัด ปลูกผักสลับปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล และยังมีที่บ้านพันลำ และบ้านท่าไคร้ ที่เกษตรกรปลูกผักตามริมโขง โดยการปลูกผักจะใช้วิธีทางธรรมชาติร่วมกับวิธีการอื่นๆ ที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืช การปลูกผักปลอดสารพิษ ที่อำเภอศรีวิไล เป็นการต่อยอดมาจากโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี โดยจะเน้นการปลูกผักอินทรีย์ เพราะกำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังสามารถสร้างทั้งอาชีพและรายได้เสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬประสานงานกับโรงพยาบาลในจังหวัดบึงกาฬ ทั้ง 8 อำเภอ รับซื้อผักจากเกษตรกร เพื่อนำไปประกอบอาหารให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาล และวางขายในโรงพยาบาลให้ประชาชนทั่วไป ได้จับจ่ายซื้อผักปลอดสารพิษกลับไปรับประทาน โดยเปิดขายทุกวันพฤหัสบดี เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งรายได้เสริมของเกษตรกรในจังหวัดบึงกาฬ นอกเหนือจากการปลูกยางพาราที่ทำเป็นอาชีพหลักอีกด้วย