เกษตรกรจังหวัดบึงกาฬ ทำเกษตรผสมผสานปลูกไม้ผลและพืชผักตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สวนคุณตา นายอนงค์ พาทิดี อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.3 บ.หาดแฮ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อติดตามการจำหน่ายลิ้นจี่ปลอดสารพิษของเกษตรกร
นายอนงค์ พาทิดี เกษตรกรเจ้าของสวน กล่าวว่า ตนเริ่มปลูกไม้ผลและพืชผักต่างๆ ในพื้นที่ 6 ไร่ เมื่อ พ.ศ.2535 โดยเริ่มแรกตนเองเน้นการปลูกสับปะรดก่อน ต่อมาได้ปลูกมะขามหวานแต่ไม่ได้ผลดี เลยได้ปรับเปลี่ยนหันมาปลูกลิ้นจี่ปี 2542 ปลูกประมาณ 80 ต้น มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ค่อม ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เนื้อล่อนการดูแลง่ายทนฝน ทนแล้ง และพันธุ์จักรพรรค ที่ได้นำสายพันธุ์นี้มาจากจังหวัดนครพนม ลูกโต หวานฉ่ำ การดูแลจะยากกว่าสายพันธุ์ค่อม เพราะหากมีฝนหลายวันติดต่อกันในช่วงที่เก็บเกี่ยวลูกจะเน่าได้ง่าย การปลูกลิ้นจี่ทั้ง 2สายพันธุ์นี้ การดูแลไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแค่ต้องให้น้ำกับต้นลิ้นจี้อย่าให้ขาด ปลูกสามปีก็เริ่มให้ผลผลิต สามารถเก็บเกี่ยวและนำไปจำหน่ายได้ ลิ้นจี่ที่ปลูกจะออกดอกช่วงเดือนธันวาคม ติดผลมกราคม และสามารถนำออกขายได้ช่วงเดือนเมษายน ของทุกปี การขายลิ้นจี่มีทั้งขายปลีกและขายส่ง ขายปลีก กก.ละ 40 – 50 บาท ส่วนขายส่งจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อที่สวน ในราคา กก.ละ 35 – 40 บาท สามารถสร้างรายได้จากการขายลิ้นจี่อย่างเดียว 70,000 บาท/ปี ภายในสวน นายอนงค์ ไม่เพียงแค่ปลูกลิ้นจี่อย่างเดียว ยังมีการปลูกผลไม้ต่างๆ เช่น เงาะ ขนุน มะนาว ลำไย และปลูกต้นยางพาราพืชเศรษฐกิจในจังหวัดบึงกาฬภายในสวนผลไม้ สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับตนเองตลอดทั้งปี
ภายในพื้นที่ 6 ไร่ ของนายอนงค์ ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการขุดสระเพื่อใช้ในการเกษตร เลี้ยงไก่มูลไก่ก็นำเป็นปุ๋ยทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลอดสารเคมี ปลอดภัยกับผู้บริโภค สามารถสร้างรายได้ และสร้างความสุขให้กับครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

‘>