คณะกรรมการคัดเลือกตัวแทนระดับภาค 4 ตรวจประเมินให้คะแนนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำ จ.บึงกาฬ เพื่อคัดเลือกเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

คณะกรรมการคัดเลือกตัวแทนระดับภาค 4 ตรวจประเมินให้คะแนนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อคัดเลือกเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันนี้ (8 พ.ค. 61) เวลา 14.00 น. ที่ศาลาริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ที่ 1 ตำบลหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ คณะกรรมการคัดเลือกตัวแทนระดับภาค 4 (ขอนแก่น) ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำ ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนจังหวัดบึงกาฬ เข้ารับการประกวดกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดีเด่นระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยนายสมรัก ภูเดช เกษตรจังหวัดบึงกาฬ นำเจ้าหน้าที่ในสังกัด รวมถึงผู้นำท้องถิ่น กรรมการและสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำให้การต้อนรับ โดยการตรวจเยี่ยมและประเมินให้คะแนนของคณะกรรมการฯ มีการสัมภาษณ์สอบถาม และเยี่ยมชมกิจกรรมการดำเนินงานของกลุ่ม ณ ที่ทำการกลุ่ม โรงสีข้าว และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำ ตั้งอยู่เลขที่ 58 หมู่ที่ 1 ตำบลหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 78 คน ประธานกลุ่มชื่อ นางจำเนียร ทีหอคำ ผู้ซึ่งมีภูมิความรู้หลากหลายในการประกอบอาชีพได้ชักชวนแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำมารวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550 โดยกลุ่มได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินกิจกรรม มีการบริหารจัดการกลุ่มอย่างเป็นระบบ เน้นการผลิตปลอดภัย มีการผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกับความรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยู่ในชุมชนมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าและพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น การแปรรูปข้าว แปรรูปลูกหยี แปรรูปปลา แปรรูปกล้วย เป็นต้น โดยผลผลิตที่โดดเด่น ได้แก่ ลูกหยียักษ์ ได้รับการคัดสรรเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 4 ดาวของกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปอีกหลายรายการที่ได้รับมาตรฐานสินค้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมถึงมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนผักและผลไม้จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

สำหรับปัจจัยที่ทำให้กลุ่มประสบความสำเร็จ คือ การบริหารจัดการที่มีความเข้มแข็ง มีการวางแผนด้านการบริหารธุรกิจอย่างเป็นขั้นตอน อาทิเช่น การวิเคราะห์ปัญหา การกำหนดเป้าหมายและทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มอย่างชัดเจน ตลอดจนเรื่องการตลาดที่นำเอาข้อดีของระบบเทคโนโลยีการสื่อสารปัจจุบันมาใช้ประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาเพิ่มศักยภาพของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่สร้างความประทับใจต่อคณะกรรมการตรวจประเมินฯ ครั้งนี้ คือการตอบข้อซักถามในประเด็นผลประกอบการของกลุ่ม

โดยนางประเนียร ทีหอคำ ประธานกลุ่มที่ กล่าวว่า แม้ผลประกอบการของกลุ่มอาจมีจำนวนไม่มาก แต่สิ่งที่ได้จากการรวมตัวกันของสมาชิกคือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหอคำและครอบครัว ซึ่งมีโอกาสได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการสร้างงานสร้างอาชีพ ได้ร่วมแบ่งปันความรู้และน้ำใจต่อกัน เกิดความรักสามัคคีช่วยเหลือเกื้อกูลกันในกลุ่มและชุมชน เป็นการพัฒนาชุมชนให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืนและถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานในอนาคตต่อไป