จ.บึงกาฬ เร่งพ่นหมอกควันกำจัดยุงลายหลังพบผู้ป่วยไข้เลือดออกส่วนใหญ่พบในเด็ก

วันนี้ (12 มิ.ย. 61) เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลบึงกาฬ ร่วมกับ สาธารณสุขอำเภอเมืองบึงกาฬ ออกฉีดพ่นหมอกควันกำจัดลูกน้ำยุงลาย ป้องกันการระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่สุ่มเสี่ยง หลังพบผู้ป่วยในพื้นที่แล้วจำนวน 8 ราย ซึ่งครั้งนี้ได้เน้นการฉีดพ่นบริเวณรอบท่อระบายน้ำ ป่ารกร้าง หลังบ้านเรือนประชาชน และจุดอับโดยรอบ เพื่อเป็นการตัดวงจรลูกน้ำยุงลาย และกำชับให้ อสม. ให้ความรู้กับประชาชนร่วมกันค้นหาและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ ยุงลายภายในที่พักอาศัย และบริเวณใกล้เคียงภายในชุมชน ทุกๆ 7 วันอย่างต่อเนื่อง

สำหรับข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ พบว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 28 พ.ค. 61 มีผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 22 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 5.20 ต่อประชากรแสนคน ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ทั้งนี้พบว่าเด็กอายุ 10-14 ปี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รองลงมาคือเด็กอายุ 5-9 ปี และอายุ 15-24 ปี โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม พบผู้ป่วยแล้ว 19 ราย ในพื้นที่ ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ ต.ศรีสำราญ อ.พรเจริญ และตำบลโคกกว้าง อ.บุ่งคล้า ตามลำดับ

นพ.วิศณุ วิทยาบำรุง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวด้วยว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เป็นช่วงระบาดของโรคไข้เลือดออก ฝากเตือนประชาชนเฝ้าระวังและการป้องกันการถูกยุงกัด เฝ้าระวังอาการของโรค และไปพบแพทย์โดยเร็วเมื่อป่วยและมีไข้สูง นอกจากนี้ในพื้นที่เกิดโรคให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง เน้นมาตรการ 3 เก็บ 3 โรค คือ เก็บบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ,เก็บขยะ ทั้งขยะในบ้านและนอกบ้าน เก็บน้ำ แหล่งน้ำในบ้านอาจเป็นแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายได้ ต้องปิดให้มิดชิด และป้องกันโรค 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคปวดข้อยุงลาย เอาไว้ด้วย