[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2561/06/12/Mobile/VNOHT610612001027601_12062018_052717.mp4″ poster=”http://www.bungkan.net/wp-content/uploads/2018/06/34893278_1689355837827221_6127396323831316480_n.jpg” width=”530″ height=”315″]
ชมคลิป
จากวิกฤติราคายางพาราตกต่ำในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรในพื้นที่อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬปรับเปลี่ยนแนวคิดจากการทำสวนยางพาราอย่างเดียว หันมาทำสวนไม้ผล ร่วมด้วย ทั้งเงาะ มังคุด ลองกอง ให้ผลผลิตดีกำลังทยอยสุก พร้อมที่จะออกจำหน่ายเต็มรูปแบบภายใน 1 – 2 เดือนนี้ คาดทำเงิน 7-8 แสนบาท
วันนี้ (12 มิถุนายน 2561) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สวนของนายวาสนา บุญคำ อายุ 50 ปีเกษตรกรบ้านนาดงน้อย หมู่ที่ 4 ต.นาดง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ จากเดิมที่เคยทำสวนยางพาราอย่างเดียว ปรับเปลี่ยนแนวคิดโดยแบ่งพื้นที่จากสวนยางพารา ทำสวนผลไม้แบบผสมผสาน โดยยึดแนวทางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และวิถีเกษตรอินทรี ทำน้ำหมักปุ๋ยชีวภาพใช้เอง ภายในสวนผลไม้บนเนื้อที่กว่า 30 ไร่ ปลูกผลไม้และพืชหลายชนิด เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน กล้วย แก้วมังกร มะนาว มะม่วง กะท้อน ลำไย มอญไข่ ไผ่ตรง กล้วย หวายและผักหวานป่า เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างจะปลูกแซมสลับกันไปตามสวน บางอย่างปลูกไว้กินเองส่วนที่เหลือก็ขายสร้างรายได้
นายวาสนา เล่าว่า ในปีที่ผ่านมาสวนผลไม้ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ คือ เกิดลมหมุนช่วงผลไม้ออกดอก ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนักผลไม้ที่เหลือขายก็ยังเหลือกำไรอยู่ประมาณ 200,000 บาท และในปีนี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันแต่น้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งผลไม้ที่รอดจากภัยธรรมชาติ เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง เหลือประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่เสียหายทั้งหมดคือทุเรียน ไม่มีผลผลิตเลย คาดว่าผลไม้ที่เหลือจากภัยธรรมชาติจะทำเงินในปีนี้ได้พอสมควร โดยเฉพาะ เงาะ มังคุด และลองกอง กำลังเริ่มทยอยสุกและเก็บออกจำหน่ายได้เป็นบางส่วน ซึ่งจะสุกพร้อมกันเต็มที่ประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งในช่วงนี้เงาะราคาขายส่งอยู่ประมาณ 3 กิโลกรัมต่อ100 บาท ส่วนมังคุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 45 บาท ส่วนลองกองยังไม่ได้จำหน่าย ทุกวันนี้จะเก็บขายตามหมู่บ้าน แต่หากสุกพร้อมกันจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่สวนเลย
นอกจากนี้ ยังมี กล้วย มะนาว หวาย และที่สำคัญผักหวานป่า เป็นพืชตัวใหม่ที่เพาะขายพันธุ์เองที่จะสามารถนำออกจำหน่ายเป็นรายได้อีกทาง นอกเหนือจากผลไม้ตามฤดูกาล และยางพาราแล้ว การทำสวนก็เน้นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรอินทรี ทำปุ๋ยและน้ำหมักใช้เอง ผลผลิตที่ออกมาจึงมีรสชาติที่หวานกรอบอร่อย คาดว่าปีนี้จะสามารถขายผลไม้ ผลผลิตต่างๆ ที่อยู่ภายในสวนได้ 7- 8 แสนบาท นายวาสนากล่าว
‘>