เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือนำกำลังทวงคืนพื้นที่ป่าภูวัวบึงกาฬ
[videojs mp4=”http://122.155.92.12/centerapp/UploadFiles/Video/2561/06/16/Mobile/VNOHT610616001006601_16062018_053354.mp4″ poster=”http://www.bungkan.net/wp-content/uploads/2018/06/ทวงคืนผืนป่า2.png” width=”530″ height=”315″]
วันนี้ (16 มิ.ย. 61) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี (รักษาการหัวหน้าชุดพญาเสือ) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารที่ 10 อุดรธานี เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าบึงโขงหลง และหน่วยงานในสังกัดในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ กว่า 100 นาย ร่วมปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อุทยานแห่งชาติภูลังกา และเขตห้ามล่าบึงโขงหลง ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยในช่วงเช้ามีการประชุมเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจในการปฏิบัติการและแบ่งชุดการทำงาน ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ
จากนั้น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้นำทีมส่วนหนึ่งลงพื้นที่สำรวจสวนยางพารา 2 แปลง ในพื้นที่บ้านเทพมีชัย ตำบลหนองเดิ่น อำเภอบุ่งคล้า ที่มีการบุกรุกพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว จำนวน 105 ไร่ มีผู้บุกรุกถือครอง จำนวน 2 คน และมีการก่อสร้างบ้านพักอาศัยที่ถาวรไว้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัด จับจีพีเอสปักหมุด เพื่อวัดพื้นที่สวนยางทั้งหมดที่ลุกล้ำพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว โดยมีผู้ใหญ่บ้านเทพมีชัยร่วมลงพื้นที่กับทางเจ้าหน้าที่ด้วย
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี กล่าวว่า บริเวณจุดที่ลงพื้นที่ในวันนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เราตรวจสอบแล้วในแปลงตามมติ ครม. วันที่ 30 มิถุนายน 2541 ตรงนี้ก่อนปี 2545 พื้นที่ยังเป็นป่า จากการตรวจสอบในวันนี้พบว่าแปลงแรกผู้ครอบครองเป็นข้าราชการและได้อ้างว่าได้ซื้อสิทธิพื้นที่มาจาก นส.2 ของคนอื่น ซึ่ง นส.2 ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นได้ และใน นส.2 เองมีพื้นที่แค่เพียง 20 ไร่ แต่จากการตรวจสอบน่าจะมีมากกว่า 40 ไร่ ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้มาถือครองพื้นที่นี้ตั้งแต่ปี 46 ซึ่งจะขาดเจตนาหรือไม่ก็ต้องว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยในวันนี้บุคคลดังกล่าวก็ได้ไห้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งเป้าหมายของเราต้องการได้พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวคืน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าหรือเป็นป่าต้นน้ำ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเป้าหมายในพื้นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวมีผู้บุกรุกประมาณ 20 แปลงที่ต้องดำเนินการทวงคืน ซึ่งมีทั้งที่เป็นแปลงเล็กๆ และแปลงใหญ่ ซึ่งเราได้มีการตรวจสอบภาพถ่ายย้อนหลังและมีการตรวจเอกสารว่าได้มาจากที่ใดและได้มาอย่างไร ซึ่งการตรวจสอบพื้นที่ในวันนี้มีผู้บุกรุกพื้นที่ จำนวน 2 แปลง ซึ่งเป็นข้าราชการทั้งสองคนรวมพื้นที่ทั้งสองแปลง จำนวน 105 ไร่ ซึ่งผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ว่าเป็นผู้กระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี และจะต้องไปอยู่ในขั้นกระบวนการสอบสวนว่าตนเองได้มาเจตนาหรือไม่เจตนา
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี กล่าวอีกว่า มีจังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบ 6 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย สกลนคร บึงกาฬ และนครพนม ที่ตนเองได้มาดูแลอยู่เราประชุมกันแล้วทุกส่วนที่มาทำงานร่วมกันวันนี้เราตรวจสอบพื้นที่มีผู้บุกรุกนับเป็น 10,000 ไร่ ซึ่งเราวางเป้าหมายว่าจะดำเนินการทวงคืนผืนป่าให้แล้วเสร็จภายใน 30 กันยายนนี้
‘>