วันนี้ 22 มิ.ย. 2561 เวลา 9.05 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อทดแทนอาคารสำนักงานหลังเดิม ที่มีพื้นที่คับแคบ ไม่สะดวกต่อการปฏิบัติงาน , โดยได้จัดสร้างวัตถุมงคล “พญาศรีสัตตนาคราช รุ่นเพิ่มยศ เพิ่มลาภ” เพื่อใช้ในการกุศล นำมาเป็นทุนก่อสร้างสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมหลังใหม่ โดยเริ่มวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2559 แล้วเสร็จวันที่ 1 กรกฎาคม 2560
ทั้งนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมหลังแรก นั้น จัดสร้างเมื่อปีพุทธศักราช 2506 ตั้งอยู่ ณ ถนนสุนทรวิจิตร โดยเป็นที่ดินของราชพัสดุ ได้ใช้เป็นสำนักงานมาโดยตลอด มีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ในปีพุทธศักราช 2551 ได้ขอใช้อาคารสโมสรข้าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นสำนักงานชั่วคราว และย้ายมาก่อสร้างในพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับอาคารเดิม
ภายในอาคารสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนมหลังใหม่ ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ อาทิ ห้องทำงาน ห้องประชุม และห้องจัดนิทรรศการ โดยทางสำนักงานฯ ได้รับผู้พิการจำนวน 3 คน เข้าทำงานตามศักยภาพ เช่น งานด้านเอกสาร และงานคอมพิวเตอร์
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ การดำเนินงานของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และคลังพัสดุ อาทิ การออกเยี่ยมนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ โรงเรียนบ้านโคกกลาง อำเภอปลาปาก การให้ความช่วยเหลือและเยี่ยมครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย บ้านโคกหินแฮ่ อำเภอเรณูนคร ออกเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบวาตภัย ในอำเภอโพนสวรรค์ และออกเยี่ยมผู้สูงอายุฐานะยากจน
สำหรับคลังพัสดุ ได้จัดเตรียมชุดถุงยังชีพ จำนวน 100 ชุด เพื่อออกบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยพิบัติต่าง ๆ และเตรียมผ้าห่ม 100 ชุด สำหรับผู้ประสบภัยหนาว โดยได้ออกแบบให้คลังพัสดุ สะดวกต่อการปฏิบัติภาระกิจในยามฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยต่าง ๆ อาทิ การขนของ การนำรถเข้าออก ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพในการบรรเทาทุกข์ประชาชนที่เดือดร้อนต่อไป
เวลา 11.14 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านไทยเสรี อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2560 เนื่องจากบ้านไทยเสรี เป็นพื้นที่ห่างไกล ไม่มีโรงเรียนประถมศึกษาอยู่ในพื้นที่ การเดินทางมีความยากลำบาก เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ปัจจุบัน เปิดการเรียนการสอนในระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 106 คน , มีครูตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ครู ตชด. 5 นาย , ครูอัตราจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบล หรือ ครู อบต. 1 คน , และครูอาสา 3 คน
ในการนี้ ทรงเปิดป้ายโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านไทยเสรี ซึ่งธนาคารออมสิน ได้สนับสนุนการจัดสร้างอาคารเรียนมีจำนวน 6 ห้อง เนื่องในโอกาสครบ 104 ปีธนาคารออมสิน
จากนั้น ทรงติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ อาทิ ด้านการศึกษา ผลการสอบประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ NT ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2560 ยังต่ำกว่าเกณฑ์ และผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2560 รายวิชาวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับจังหวัด
ทางโรงเรียนฯ มีการแก้ไข ด้วยการบูรณาการแผนการสอนจากสื่อที่หลากหลายให้แก่นักเรียน อาทิ เรียนผ่านสื่อการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม , เชิญครูและวิทยากรที่มีความรู้ในแต่ละรายวิชา เข้าไปสอนเพิ่มเติม ส่วนนักเรียนมีปัญหาเรื่องการอ่านและเขียน ทางโรงเรียนฯ ได้เข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการสอนวิชาภาษาไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ฝึกอบรมเพิ่มทักษะการสอนวิชาภาษาไทยให้แก่ครู ในห้วงเวลาปิดภาคเรียน และแนะนำให้ครูมีการใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลาย อาทิ ใช้เพลงประกอบการสอน อีกทั้งมีการสอนเสริมนอกเวลาเรียนด้วย ทั้งนี้ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา
ด้านการส่งเสริมการประกอบอาชีพ ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองที่มีความชำนาญในการจักสานไม้ไผ่เข้าไปช่วยสอน เป็นการเสริมสร้างและพัฒนาทักษะอาชีพให้แก่นักเรียน
ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ผลผลิตทางการเกษตรมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากเป็นโรงเรียนเปิดใหม่ จึงได้จัดซื้อเพิ่มเติม , ขยายแปลงเกษตรเพิ่มในการปลูกพืชผัก และไม้ผล อีกทั้ง ให้เมล็ดพันธุ์แก่ผู้ปกครองนักเรียนไปปลูก , เมื่อได้ผลผลิต ให้นำมาขายแก่โรงเรียน อาทิ กล้วย , มะละกอ และถั่วชนิดต่าง ๆ
นอกจากนี้ โรงเรียนฯ ได้จัดตั้งศูนย์บริการความรู้ด้านการเกษตร เช่น การเลี้ยงปลาดุก , การปลูกผักสวนครัว , การเพาะเห็ดนางฟ้า และการเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองนักเรียน และประชาชนในชุมชนได้เข้าไปเรียนรู้ ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือและเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียนและชุมชน
โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปตรวจรักษาโรคทั่วไปและด้านทันตกรรม แก่ประชาชน สำหรับ บ้านไทยเสรี มี 127 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนยางพารา มีรายได้เฉลี่ย 50,000 บาทต่อครอบครัวต่อปี
เวลา 14.02 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคำชมภู หมู่ 9 ตำบลบ้านต้อง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เพื่อทรงติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ
ในการนี้ ทรงเปิดป้ายโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคำชมภู ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558
โรงเรียนฯ นี้ เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบัน มีนักเรียน 143 คน , มีครู ตชด. 6 นาย และครูอื่น ๆ 4 คน สำหรับ ผลการทดสอบทางการศึกษาฯ NT ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ O-NET ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2560 มีคะแนนต่ำกว่าระดับประเทศ ทางโรงเรียนฯ ได้แก้ไข โดยหลังเลิกเรียน มีการสอนเสริมให้แก่นักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำ และส่งครูไปอบรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สาขาบึงกาฬ
ส่วนด้านการส่งเสริมอาชีพ มีการสอนปักผ้าด้วยสดึง ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกสมาธิ ส่งผลให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้น และลดรายจ่ายของผู้ปกครองในการปักชื่อนักเรียน นอกจากนี้ วิทยาลัยการอาชีพเซกา ได้เข้าไปให้ความรู้การซ่อมจักรยานเบื้องต้น ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคตได้
ด้านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ผลผลิตทางการเกษตรเพียงพอต่อความต้องการ และส่วนที่เหลือจากการประกอบอาหารกลางวัน ได้นำไปจำหน่ายให้แก่ชุมชน โดยผ่านระบบสหกรณ์โรงเรียน
ทั้งนี้ โรงเรียนฯ ยังมีป่าอนุรักษ์จำนวน 10 ไร่ เพื่อให้นักเรียนเข้าไปศึกษาเรียนรู้ประโยชน์ของป่า ศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศและทำการอนุรักษ์พันธุ์พืชท้องถิ่น ด้วยการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ โดยนักเรียนเป็นผู้ดูแล อาทิ ผักหวานป่า ซึ่งเป็นพืชพื้นถิ่นหายาก ได้ทำการขยายพันธุ์และเริ่มเก็บผลผลิตได้แล้ว การปลูกพืชสมุนไพร จำนวน 69 ชนิด ซึ่งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดบึงกาฬภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูก ดูแล รักษา และสรรพคุณของพืชสมุนไพรแต่ละชนิด และการนำสมุนไพรไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ การทำลูกประคบสมุนไพรพื้นบ้าน , น้ำมันว่านเสลดพังพอน , น้ำมันว่านไพลสด , ขี้ผึ้งเสลดพังพอน และขี้ผึ้งไพลสด
โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์และหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น , โรงพยาบาลบึงกาฬ โรงพยาบาลเซกา จังหวัดบึงกาฬ , และคณะทันตกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไปตรวจรักษาประชาชน พบว่าส่วนใหญ่ป่วยด้วยระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
สำหรับ บ้านคำชมภู มี 135 ครัวเรือน ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนยางพารา และทำนา มีรายได้เฉลี่ย 45,000 บาทต่อครอบครัวต่อปี
เวลา 16.12 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนมัธยมวานรนิวาส ตำบลวานรนิวาส อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร
ในการนี้ ทรงเปิดแพรคลุมป้าย “อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558” ซึ่งโรงเรียนวานรนิวาส ดำเนินการก่อสร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อแก้ไขปัญหาอาคารเรียนไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน เป็นอาคารเรียนตามแบบของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความสูง 4 ชั้น จำนวน 24 ห้องเรียน ยกใต้ถุนสูง
โรงเรียนฯ นี้ เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2509 มีเนื้อที่กว่า 124 ไร่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ จัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบัน มีอาคาร 9 หลัง มีห้องเรียนและห้องปฏิบัติการรวม 106 ห้อง , มีครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 180 คน , มีนักเรียน 2,619 คน
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการวิชาการ และผลงานของนักเรียน ใน 8 กลุ่มสาระวิชา ซึ่งทางโรงเรียนฯ ได้สืบสานและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมความเป็นไทย ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชุมนุมวาดภาพแรเงาตามแบบพระฉายาลักษณ์ และ กลุ่มสาระวิชานาฏศิลป์ สาธิตการปักดิ้น ดิ้นโปร่ง , ดิ้นข้อ , ดิ้นมัน เป็นกรองศอ เครื่องแต่งกายเชิดหุ่นคน เพื่อลดค่าใช้จ่าย และให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าความเป็นไทย
กลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์ นำเสนอศิลปะการทอผ้าฝ้ายย้อมครามสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสกลนคร ซึ่งนักเรียนได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่การอิ้วฝ้าย ทำเป็นเส้นฝ้าย , ย้อมผ้าจากคราม มัดหมี่ ทอผ้า และตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีลายที่สร้างสรรค์ออกแบบจากต้นหูลิง ที่เป็นต้นไม้ประจำอำเภอวานรนิวาส
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เสนอโครงงานคุณธรรม ผ้าขาวม้าเย็บมือ ผ้าผืนงามครามขาวม้า ภูมิปัญญา ที่ออกแบบตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ
นอกจากนี้ มีงานสารานุกรมไทยและหนังสือเล่มเล็ก ฝึกให้เด็กนักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน อีกทั้ง นักเรียนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาอำเภอวานรนิวาส เป็นชื่อพระราชทานในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ประกอบด้วย 3 กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มโย้ย , กลุ่มไทยลาว และกลุ่มภูไท
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนฯ ยังมีชุมนุมกีฬากอล์ฟ โดยมีพื้นที่ 64 ไร่ เป็นสนามกอล์ฟ 9 หลุม เปิดสอนนักเรียนและผู้สนใจได้ฝึกเล่นกอล์ฟ และสอนเป็นแคดดี้ เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ส่วนกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ มีกิจกรรมเขียนพู่กันจีน , ออกแบบเครื่องลายคราม , ตัดกระดาษ และผูกเชือก แสดงถึงความโชคดี ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระอักษรภาษาจีน พระราชทานแก่โรงเรียน เพื่อความเป็นสิริมงคล
กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี สร้างสรรค์ผลงานคอมพิวเตอร์ จัดทำเป็นสื่อการเรียนรู้
สำหรับ กิจกรรมจัดหารายได้ระหว่างเรียน ได้สอนทำครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมจากพืชสมุนไพร และลิบปาล์ม ทำให้นักเรียนมีรายได้หมุนเวียนในกลุ่มฯ และเป็นรายได้เสริม
โรงเรียนฯ นี้ มีผลงานดีเด่นระดับชาติ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันหุ่นยนต์ยุวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา 2559 รางวัลเหรียญทอง การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน “ระดับชาติ” ครั้งที่ 67 ปีการศึกษา 2560
ในการเสด็จพระราชดำเนินไปครั้งนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงเก้าศูนย์เก้า โดยกองบัญชาการกองทัพไทย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้ออกอากาศครอบคลุมทั่วประเทศ
ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จากโรงพยาบาลวานรนิวาส โรงพยาบาลวาริชภูมิ และโรงพยาบาลพังโคน มีผู้ไปรับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป 29 คน ทันตกรรม 34 คน และทรงเยี่ยมราษฎร ที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาท รับเสด็จ
ข่าวในพระราชสำนัก สทท.
‘>