ผู้ว่าฯ บึงกาฬ รุดดูสถานการณ์น้ำท่วม รพ.!! ด้าน ผอ.รพ.โวยของบสร้างบ่อบำบัดยังไม่ได้ (คลิป)

เมื่อตอนสายวันที่ 12 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีน้ำท่วม รพ.บึงกาฬ ว่าจากการที่ฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืนผ่านมาวัดปริมาตรได้ 130  มิลลิเมตร ทำให้น้ำท่วมบ้านพักเจ้าหน้าที่ใน รพ.บึงกาฬและโรงเรียนบึงกาฬ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.บึงกาฬ คนใหม่ที่พึ่งมาทำงานไม่กี่วันหลังรับทราบข่าวรีบรุดไปดูสถานการณ์ และได้แนะนำให้นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงทางหลวงบึงกาฬ ปภ.บึงกาฬ อบต.บึงกาฬ เทศบาลวิศิษฐ์และเทศบาลบึงกาฬ ซึ่งมีพื้นที่ล้อมรอบทั้ง รพ.และโรงเรียนบึงกาฬ เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกันโดยไม่ต้องโทษใครคนได้คนหนึ่ง

ด้านนายวิรัตน์ แสนอุดม ผอ.แขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้เปิดเผยว่า ได้นำเจ้าหน้าที่มาซ่อมแซมถนนที่ออกจาก รพ.บึงกาฬมาสู่ถนนสาย 212 ซึ่งถูกน้ำไหลล้นกันเซาะจนถนนพังเสียหาย และได้นำรถ JCB ไปขุดปากท่อระบายน้ำข้าง บขส.บึงกาฬ เพื่อเปิดทางน้ำให้ไหลกว้างสะดวกมากขึ้น เนื่องจากการวางท่อเดิมเป็นเพียงท่อเดียว แต่การไหลมาของน้ำจากด้านเหนือไหลมา 4 ท่อ จึงเปิดคอขวดออกให้นำไหลระบายได้สะดวกเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งในอนาคตต้องวางท่อเพิ่มหรือทำเป็นบล็อกคอนเวิร์สไปเลย

เช่นเดียวนายแพทย์ณรงค์ ธาดาเดช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ ได้พาสื่อมวลชนดูจุดน้ำท่วมและได้ให้สัมภาษณ์ว่า ปีนี้มีน้ำท่วมขัง รพ.บึงกาฬ  2-3 ครั้ง ในคืนที่ผ่านมาวัดปริมาณน้ำได้ถึง 130 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ประกอบกับพื้นที่ของโรงบาลเป็นแอ่งและเป็นจุดต่ำสุดของจังหวัด ระบบระบายน้ำเกิดปัญหา  และบัดบัดน้ำเสียที่มีอยู่ คือบ่อนี้เป็นบ่อบำบัดน้ำเสียเก่าตั้งแต่เป็นโรงพยาบาลชุมชน ขณะนี้เป็นโรงบาลจังหวัดแล้วยังไม่ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างบ่อใหม่ ซึ่งก็เคยทำเรื่องของบไปแล้ว บ่อเดิมที่มีอยู่สามารถรองรับน้ำเสียได้ปริมาตร 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั่น ซึ่งก็ไม่เพียงพอเพราะผู้ป่วยที่มารับบริการขณะนี้ 350 เตียง ต้องมีบ่อบำบัดน้ำเสียที่สามารถรองรับได้ 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ดังนั้นเวลาฝนตกน้ำก็ขังทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบำบัดน้ำเสีย  ซึ่งเราต้องบัดบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีก่อนที่จะระบายลงสู่ชุมชน  จึงเป็นปัญหาเร่งด่วน ที่โรงพยาบาลจะต้องรีบแก้ไขบ่อบำบัดน้ำเสียเพราะอย่างน้อยจะต้องไม่โดนน้ำท่วมและน้ำที่จะระบายสู่ชุมชนก็จะเป็นน้ำดี

วันนี้ฝนตกถึงระดับ 130 มิลลิเมตรต่อวันก็ทำให้น้ำข้างนอกไหลเข้าสู่ตัวพื้นที่โรงพยาบาลซึ่งเป็นจุดต่ำ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากเอกชน ไปถมรุกล้ำที่สาธารณะต่างๆ หรือทางเดิน ทางระบายน้ำห้วยหนองคลองบึง มีการก่อสร้างถนนหมู่บ้านจัดสรรก็ทำให้เป็นปัญหาซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกที่  โรงพยาบาลบึงกาฬจะเริ่มต้นด้วยวิธีการประท้วง โดยวิธีการถ้าหากรู้ว่าเอกชนรายใดไปถมที่ทับทางน้ำสาธารณะ โรงพยาบาลก็จะประกาศไม่ค้าขายหรือร่วมสังฆกรรมกับเอกชนรายนั้นๆ น้ำท่วมโรงพยาบาลปัจจุบันนี้เกิดจาก หนึ่งน้ำข้างนอกไหลเข้ามาในโรงพยาบาล สาเหตุที่สอง คือน้ำขังอยู่ภายในระบายออกไม่ทัน  การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยการทำประตูปิดกั้นไม่ให้น้ำข้างนอกซึ่งมาจากท่อระบายน้ำริมถนนสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม ไหลเข้า แล้วสูบน้ำออกลงน้ำโขงทางหน้า รพ.บึงกาฬ  การแก้ไขก็จะสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียหรือแก้มลิงเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งเป็น 2 บ่อและบ่อเดียวที่มีอยู่คงไม่พอแน่ เพื่อรองรับปริมาณน้ำภายในโดยทำเป็นรางบังคับน้ำให้ไหลลงบ่อ  และสร้างประตูปิดกั้นน้ำไม่ให้น้ำข้างนอกไหลเข้า ถ้าหากน้ำข้างนอกลดลงก็จะค่อยเปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำออกหรือหากว่าทางจังหวัดมีงบประมาณทำทางระบายน้ำด้านนอกได้ดีเราถึงจะปล่อยน้ำที่เราบำบัดแล้วออกไปสู่ข้างนอก ซึ่งเราคิดว่าจะสามารถลดการขังของน้ำได้อย่างถาวร เป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ

[videojs mp4=”http://clip4.tnews.co.th/clip_1531401598_2231.mp4″ poster=”http://img4.tnews.co.th/large/tnews_1531401597_7523.jpg” width=”530″ height=”315″]’>