ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้นฤดูหนาวฝนทิ้งช่วงน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำโขงหลายหมู่บ้านในจังหวัดบึงกาฬพลิกวิกฤติเป็นโอกาสปลูกผักแบบขั้นบันไดริมตลิ่งแม่น้ำโขงสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว
ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านที่ติดริมแม่น้ำโขงในจังหวัดบึงกาฬ ใช้วิกฤตเป็นโอกาสจากน้ำโขงที่ลดลงจับจองพื้นที่ดินริมตลิ่งที่มีดินอุดมสมบูรณ์จากการทับถมของอาหารพืชที่มากับน้ำเมื่อน้ำลดดินจึงอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารพืชชาวบ้านจึงพลิกที่ดินเตรียมแปลงปลูกพืชผักสวนครัวหลากหลายชนิด ทุกๆปีหลังจากต้นเดือนตุลาคม หรือปลายฝนต้นหนาว อากาศที่หนาวเย็นในตอนเช้าอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 23- 25 องศา ซึ่งเหมาะสมต่อการเพาะปลูก ชาวบ้านหลายหมู่บ้านทั้งบ้านพันลำ หมู่ที่ 2 ต.วิศิษฐ์ บ้านบึงกาฬใต้ บ้านนาโนน บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ อาศัยวิกฤตเปลี่ยนเป็นโอกาสต่างพากันจับจองที่ดินเหล่านี้ปลูกพืชระยะสั้นจำพวกผักชนิดต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักชี ผักกาดหอม ผักคะน้า กระเทียม บร็อคโคลี่ (Broccoli) และผักชนิดอื่นๆ ส่งขายตามตลาดสด และได้รับความนิยมจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ยิ่งช่วงที่มีอากาศที่เย็นในตอนเช้า ส่งผลดีต่อผักที่ปลูก ต้นอวบใหญ่สมบูรณ์ กรอบหวาน เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านพันลำหมู่ที่ 2 ต.วิศิษฐ์ ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านปลูกผักริมแม่น้ำโขงปลอดสารพิษ ในทุกๆปีจะมีพ่อค้าแม่ค้าทั้งในจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดใกล้เคียงตลอดจน ชาว สปป.ลาว เดินทางมารับซื้อผักที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
ขอขอบคุณที่มาข่าวมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/region/news_1161079‘>