ตำรวจเร่งตาม 2 เยาวชน ร่วมแก๊งรุมตบสาว 16 สอบ ด้านญาติผู้ก่อเหตุ รับเห็นคลิปถึงกับน้ำตาตก เสียใจเลี้ยงหลานไม่ได้ดี …
จากกรณีคลิปเด็กวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน รุมทำร้ายร่างกายหญิงวัย 16 ปี ตบ เตะ และผลักลงน้ำหลังมีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล ขณะที่แม่ย้ำเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เรียกร้องพ่อ-แม่เด็กรับผิดชอบ
ล่าสุดวันนี้ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวสอบถามความคืบหน้าของคดีไปยัง พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังติดตามเยาวชนที่อยู่ในคลิปอีก 1-2 คน ที่คาดว่าเป็นคนถ่ายคลิป และเป็นคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มารับน้องไปให้อีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย คาดว่าจะได้ตัวมาสอบสวนภายในเร็ววันนี้
ส่วนผู้เสียหาย น.ส.กุ๊ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ทางร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ให้มาสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า จะเดินทางมาให้ปากคำในวันที่ 6 พ.ย.นี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของเยาวชนหญิงทั้ง 4 คน ที่รุมทำร้ายร่างกายที่อยู่ภายในคลิป พร้อมด้วยทหารรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจ สภ.โซ่พิสัย กำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรับทราบข้อมูลฐานะและความเป็นอยู่
โดย นางพัดโธ (สงวนนามสกุล) ยายของเยาวชนหญิง 1 ใน 4 ที่ไปทำร้ายร่างกาย กล่าวว่า น้องวี (นามสมมติ) อาศัยอยู่กับยาย พ่อของน้องเสียชีวิตแล้ว แม่ก็ไปทำงานต่างจังหวัด ที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เพิ่งมารู้ตอนค่ำวานนี้ที่มีข่าวออกทางทีวี
ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอนก็ไม่หลับ พอเห็นคลิปถึงกับน้ำตาตก อยากจะเอาค้อนตีหลานตัวเอง เสียใจที่ไม่สามารถคุมความประพฤติของเด็กได้ เพราะยายเองก็แก่แล้ว ก็อยากจะขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้ามีโอกาสก็จะไปขอโทษกับครอบครัวของฝ่ายที่ถูกทำร้าย
ส่วน นายยม (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ปู่ของน้องพลอย (นามสมมติ) บอกว่า หลังรู้ข่าวก็รู้สึกสลดหดหู่ในหัวใจ ที่ผ่านมาก็อบรมบ่มนิสัยเด็กมาโดยตลอด น้องก็ยังเรียนอยู่ ว่างจากเรียนก็ช่วยเหลืองานบ้าน ช่วยทำไร่ทำสวน แบ่งเบาภาระได้อยู่ ไม่ได้เป็นคนเกเรแต่อย่างใด ทุกวันก็ย้ำเตือนว่าไปกับเพื่อนก็ให้ระวังอย่ามีเรื่องมีราวที่ไม่ดี จนสุดปัญญาที่จะสั่งสอน
เรื่องที่เกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ขอโทษขอโพย ที่ล่วงเกินในสิ่งที่ลูกหลานทำลงไป ขอให้สื่อเป็นสื่อกลาง นำความเสียใจส่งไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บด้วย.
ขอขอบคุณทีมาข่าวไทยรัฐออนไลน์ https://www.thairath.co.th/content/1410238‘>