LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

นิพนธ์ คนขยัน นายกอบจ.บึงกาฬ โดดซบพรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐ คึกคักไหล อดีต ส.ส.โผซบไม่หยุด “เอกราช” ควงลูกชาย พร้อมอดีตรมต.-อดีตส.ส. 8 จังหวัดภาคอีสานลั่น ขอนแก่น บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู จะกวาดเก้าอี้ยกเข่ง..

 นายไพรวัลย์ อรกุล รองนายก อบจ.บึงกาฬ เข้าสมัครเป็นสมาชิกพร้อม นายนิพนธ์ คนขยัน นายกอบจ.บึงกาฬ และอดีตส.ส.บึงกาฬ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน

เมื่อวันที่ 15 พ.ย.61 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาคารปานศรี  สำหรับบรรยากาศวันที่สามของการเปิดรับสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พชปร.) อย่างเป็นทางการยังคงคึกคัก มีอดีตรมต.และอดีตส.ส.ภาคอีสาน ทยอยนำทีมงานมาสมัครเป็นจำนวนมาก รวมถึงประชาชนทั่วไปนายเอกราช ช่างเหลา อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ปัจจุบันเป็นผู้บริหารฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด ได้นำทีมงาน 8 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และหนองบัวลำภู พร้อมอดีตส.ส.นักการเมืองท้องถิ่น อาทิ นายเวียง วรเชษฐ์ อดีตส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีตรมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และอดีตส.ส.อุดรธานี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน
รองนายก อบจ.บึงกาฬ นายไพรวัลย์ อรกุล รองนายก อบจ.บึงกาฬ เข้าสมัครเป็นสมาชิกพร้อม นายนิพนธ์ คนขยัน นายกอบจ.บึงกาฬ และอดีตส.ส.บึงกาฬ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน พร้อมลูกชายนายเอกราช นายวัฒนา ช่างเหลา รองนายกอบจ.ขอนแก่น ประธานสโมสรทีมฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ด มาสมัครเป็นสมาชิก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ตามกำหนดการเดิมกลุ่มอดีตส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ ธวัชชัย อนามพงษ์ นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา และนายแสนคม อนามพงษ์ จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย ในวันเดียวกันนี้ เวลา 11.00 น.ล่าสุดเจ้าหน้าที่พรรคได้แจ้งผู้สื่อข่าวว่า ทั้ง 3 คนจะขอไปสมัครสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่พรรควันที่ 18 พ.ย. ที่โรงแรมแชงกรี-ลา นอกจากนี้ วันที่ 16 พ.ย. นางวทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ อดีตผู้จัดการทีมให้กับฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุ 23 ปี จะเดินทางมาสมัครสมาชิก
ต่อมา

นายเอกราช ช่างเหล่า อดีต สปช.กล่าวว่า เรามั่นใจว่า นโยบายของรัฐบาลนั้นตอบโจทย์การช่วยเหลือประชาชนตรงจุด และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งทุกระดับ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพื้นที่ทับซ้อนในการลงสมัคร ส.ส.นั้น ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขเป็นเรียบร้อยหมดแล้ว และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนาม พปชร.ภาคอีสาน พร้อมเปิดตัวในวันที่ 18 พ.ย.นี้ และมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ จะชนะการเลือกตั้งยกจังหวัดใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู ที่เหลือคาดว่าจะได้เกิน 50 %




“วันนี้ชาวบ้านแยกวงออกไปจากนักการเมืองระดับหนึ่ง เพราะเมื่อทราบว่าจะมีการเลือกตั้ง นักการเมืองก็มักสร้างกระแสความแตกแยก แต่วันนี้ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ เรามั่นใจว่า ไม่ว่าจะเป็นสีเสื้อใด ก็ต่างเป็นคนไทยด้วยกัน เราต้องสลายสีเสื้อ และประชาชนต่างเชื่อมั่นใน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายกฯและหัวหน้า คสข.ที่ดูแลบ้านเมืองมาตลอด 4 ปี แล้ววันนี้บ้านเมืองสงบ ประเทศชาติก็มีโอกาสพัฒนา ไม่มีใครชอบความวุ่นวาย ความวุ่นวายทางการเมืองก็เกิดจากนักการเมืองที่สร้างขึ้นเอง โดยเป็นแกนหลักสร้างความวุ่นวาย วันนี้ประชาชนในพื้นที่พร้อมที่จะขับเคลื่อนไปกับพรรค พปชร.เพราะเขาเชื่อและศรัทธาว่าการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วง 4 ปี ให้ประโยชน์เป็นอย่างมาก ประเทศมีการพัฒนา มีความสงบ” อดีต สปช.กล่าว

ด้านนายวัฒนา ช่างเหล่า รองนายกฯ อบจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จะลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 ยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง แต่มั่นใจจะชนะ ในส่วนของงานสโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ดนั้น คิดว่าสามารถบริหารควบคู่กันไปได้ และคงไม่เอาผู้บริหารสโมสรและนักฟุตบอลเข้ามาการเมือง เพราะถือเป็นคนละส่วนกัน

ขณะที่ นพ.วิชัย ชัยจิตรวณิชกุล อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้การเมืองเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ประชาชนสามารถจับต้องสิ่งที่รัฐบาลทำ และวันนี้ราคาข้าวสูงมากเป็นประวัติศาสตร์ จึงเชื่อว่านโยบายของรัฐบาลและของพรรคพลังประชารัฐ จะตอบโจทย์ประชาชนรากหญ้าและชนชั้นกลาง ช่วยให้กระเป๋าสตางค์ของประชาชนฟูขึ้น ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงไม่น่าหนักใจอะไรกับพรรคคู่แข่ง เช่น พรรคเพื่อไทย เพราะไม่เชื่อว่าการแตกแบงก์พันของพรรคเพื่อไทยจะสามารถฮั้วกันได้

อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย กล่าวอีกว่า ส่วนตัวจะลงสมัครเลือกตั้งส.ส.เขต 2 อุดรธานี แม้จะเป็นที่ทราบกันว่าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงก็ตาม แต่เราตั้งเป้าจะชนะ 4 จาก 8 เขต เนื่องจากเราอยู่ใกล้ชิดพื้นที่มาเป็นระยะเวลาพอสมควร และกระแสของพลังประชารัฐถือว่าดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไม่เท่ากับเพื่อไทย เพราะพลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ จึงต้องวัดกันที่ตัวบุคคล และเชื่อว่าเมื่อถึงเลือกตั้ง กระแสของพลังประชารัฐและเพื่อไทยในอุดรธานีจะใกล้เคียงกัน.

ข่าวไทยรัฐออนไลน์  https://www.thairath.co.th/content/1421753

‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด