บึงกาฬ กกต.ชี้แจงกรรมการระดับอำเภอจังหวัดเตรียมเลือก สว. กกต.บึงกาฬ

บึงกาฬ กกต.ชี้แจงกรรมการระดับอำเภอจังหวัดเตรียมเลือก สว.

กกต.บึงกาฬ จัดประชุมเตรียมความพร้อมการเลือก สว. คณะกรรมการระดับอำเภอ-จังหวัด เพื่อให้การเลือกตั้ง เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สุจริต เป็นกลาง
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2561 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานการประชุมชี้แจง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คณะกรรมการระดับจังหวัด และคณะกรรมการระดับอำเภอ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้ทรงคุณวุฒิในเขตอำเภอของแต่ละอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรวมจำนวนทั้งสิ้น 77 คน ที่ห้องประชุมสิรินธารา โรงแรมเดอะวัน อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

นายยอดยิ่ง จงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อม ที่จะให้คณะกรรมการการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ที่ต้องรับผิดชอบภารกิจในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ที่จะมีขึ้นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ตามมาตรา 107 วรรค 5 บัญญัติให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ประกอบกับเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ได้มีผลใช้บังคับแล้ว สำหรับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในระดับจังหวัดจะมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการการเลือกระดับจังหวัด และระดับอำเภอ จะมีนายอำเภอเป็นประธานกรรมการการเลือกระดับอำเภอ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการและประสานงานการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด และระดับอำเภอทั้ง 8 อำเภอ เพื่อประสานงานและอำนวยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ฝากเน้นกำชับเรื่องศึกษาระเบียบของกรรมการควรศึกษากฏระเบียบให้ชัดเจนเพราะเป็นเรื่องใหม่อยากให้คณะกรรมการการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ทำความเข้าใจในเรื่องระเบียบยึดตามคู่มือที่ทาง กกต.กำหนดให้ คณะกรรมการทุกคนต้องพร้อม อีกเรื่องการวางตัวให้เป็นกลางของคณะกรรมการ รักษาความเป็นกลางให้ชัดเจน และกำชับเรื่องการห้ามเปิดเผยรายชื่อผู้สมัคร และจำนวนผู้สมัคร ก่อนพ้นระยะเวลารับสมัคร ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะต้องอำนวยการเลือกตั้งให้ไปเป็นอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามกฏหมายเป็นไปได้ตามขั้นตอน ก็ขอเชิญชวนคณะกรรมการทุกท่านทำตามหน้าที่ของตัวเอง ไม่ต้องไปทำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีสิทธิ์แค่ไหนก็ทำแค่นั้น ซึ่งหากผิดระเบียบต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ก็ฝากให้คณะกรรมการทุกท่านทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นพอ นายนิรัตน์กล่าว..

‘>