รวบอดีตผู้ใหญ่บ้านบึงกาฬ ลักควาย อ้างหมุนเงินไม่ทัน

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 24 มิถุนายน ขณะที่ ร.ต.ท.สมพงษ์ นามศรี รอง สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี นายดี สารพัฒน์ อายุ 62 ปีและนางทองใบ สารพัฒน์ อายุ 61 ปี สองสามีภรรยาอยู่ หมู่ 10 บ้านบะยาว ต.หนองยอง อ.ปากคาด ได้วิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะมีฝนตกปรอยๆ ควายของตน 3 ตัวคือมีควายตู้ตัวผู้ หรือควายทุยเขาสั้น 1 ตัวและมีควายแม่สาว 2 ตัว รวม 3 ตัวได้หายไปจากคอกที่ผูกไว้อย่างดีกลางทุ่งนา มีร่องรอยการจูงเดินไปขึ้นรถกระบะที่อยู่ห่างออกไปถึง 1 กิโลเมตร จึงน่าจะมีคนมาขโมยเอาไป จากนั้นได้รายงานให้ พ.ต.อ.สมาน ศรีสันต์ ผกก.ทราบเนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับผู้มีอาชีพกสิกรรม ที่มีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งการผ่านวิทยุสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ออกตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน โดยเน้นเฉพาะในตลาดนัดขายโค-กระบือ
ต่อมาจึงได้รับแจ้งจาก สภ.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ว่าพบควายต้องสงสัยมีรูปพรรณตามที่แจ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้พานายดีและนางทองใบ 2 สามีภรรยาเจ้าของควายไปดู เมื่อเห็นควายตู้ตัวผู้ที่มีผู้ซื้อไปแล้วและนำขึ้นรถ 6 ล้อกำลังจะออกจากตลาดก็จำได้ทันที ส่วนควายแม่สาว 2 ตัวทราบว่ามีผู้ประมูลเข้าโรงฆ่าสัตว์เทศบาลตำบลศรีวิไลแล้ว จึงตามไปตรวจสอบพบว่ากำลังถูกเพชฌฆาตจูงเข้าโรงเชือดพอดี จึงช่วยออกมาได้หวุดหวิด
ขณะที่ ร.ต.ท.สมพงษ์ ตรวจดูใบซื้อขายเอกสารการประมูลพบว่า เจ้าของหรือผู้ขายคือ นายคำพัน อำนาจ อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านและมีอาชีพซื้อขายวัว-ควายตามตลาดนัด อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 7 บ้านห้วยเดือนห้า ต.หนองยอง อ.ปากคาด จึงตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักพร้อมยึดรถกระบะของกลางยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีขาวทะเบียน บก 7172 บึงกาฬรับสารภาพว่าเป็นหนีเพื่อนอยู่ 1 แสนเศษหมุนเงินไม่ทันจึงต้องไปขโมยควายของนายดีและนางทองใบไปขายได้เงิน 85,000 บาท ทั้ง 2 คนเคยให้ความช่วยเหลือตนมาตลอดไม่ว่าจะเป็นยืมเงิน หรือนำควายไปขายก่อน 4-5 เดือนค่อยนำเงินมาให้ จึงถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์(กระบือ) ในเวลากลางคืนที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรมหรือรับของโจร ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.

‘>