ภ.จว.บึงกาฬตำรวจยึดไม้พะยูงเรือนเก่า 5 คิว

ตำรวจยึดไม้พะยูงเรือนเก่า 5 คิว
รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ก.ค.56 พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังข์ ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ สืบทราบว่ามีกลุ่มพ่อค้าไม้พะยูงลักลอบขนไม้พะยูงหลบด่านการตรวจตามถนนสายหลัก เข้ามาตามถนนภายในหมู่บ้านระหว่างบ้านดอนเสียด ต.บ้านต้อง อ.เซกา –บ้านชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.วิชชากร ปุราสะเก รอง สว.สส.สนธิกำลังกับ พ.ต.ต.อุทัย อ่อนยิ้ม สารวัตรใหญ่ สภ.โสกก่าม ต.โสกก่าม อ.เซกา ร.ต.ต.สันติชัย รมพิพัฒน์ หัวหน้าชุดสายตรวจ กก.3 บก.ปทส.บึงกาฬ และนายทรัพย์สิน จงดี หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.4 (เซกา) วางแผนเข้าตรวจสอบ เวลาดังกล่าว พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน 70-1788 อุบลราชธานี มีนายสุขี พิมศรี อายุ 42 ปี เป็นคนขับมาจอดอยู่หน้าตลาดขายยางถ้วยบ้านดอนเสียด หมู่ 12 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบท้ายรถบรรทุก 10 ล้อมีผ้าใบคลุมอย่างมิดชิด จึงเปิดออกดูพบว่าเป็นไม้พะยูงเรือนเก่าชนิดต่างๆ ทั้งเป็นเสาบ้าน ไม้พื้นกระดาน และบางชิ้นเป็นเตียงนอน จึงขอดูเอกสารการซื้อขายไม่มีมาแสดง มีเพียงใบอนุญาตขนย้ายไม้เรือนเก่า โดยนายสุขีอ้างว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างขนย้ายให้มาส่งไม้ในเขตอำเภอบุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ได้เงินเที่ยวละ 1 หมื่นบาท ส่วนเอกสารการซื้อขายอยู่ที่นายทุนกำลังติดต่อขอให้นำเอกสารมาแสดง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ก่อน
ด้าน ร.ต.ต.สันติชัย รมพิพัฒน์ หัวหน้าชุดสายตรวจ กก.3 บก.ปทส.บึงกาฬ กล่าวว่า ไม้พะยูงเรือนเก่าล็อตนี้ปริมาตรน่าจะมีถึง 5 ลูกบาศก์เมตร หากนำออกขายต่างประเทศอาจได้ราคาถึง 10 ล้านบาทแล้วแต่กรดของไม้ แต่วันนี้หากเจ้าของไม้นำหลักฐานการซื้อขายมาแสดงก็ต้องปล่อยให้ผ่านไป เนื่องจากยังไม่ได้มีการกระทำผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด และไม้เรือนเก่าหากมีการพิสูจน์ได้ว่าเป็นไม้ที่ผ่านการใช้สอยเป็นสิ่งปลูกสร้างมาก็ซื้อขายกันได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว หากจะมีความผิดเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนำออกนอกประเทศหรือระหว่างขนลงเรือจะข้ามแม่น้ำโขง โดยไม่ผ่านพิธีการทางด้านศุลกากร ที่ผ่านมาเราจับกุมดำเนินคดีขณะไม้เรือนเก่ากองอยู่ในบ้านหรือบนบก พอขึ้นศาลก็ยกฟ้องคืนของกลางทุกราย.

‘>