จากรณีมีคนร้ายจุดไฟแล้วโยนเข้าไปในกุฏิพระสมจิต เกิดทรัพย์ หรือหลวงพ่อแต อายุ 53 ปี พระนักบุญที่ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ภายในสำนักปฏิบัติธรรมพระประเสริฐเกิดทรัพย์ บ้านโพนทอง หมู่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ขณะนอนหลับจนไฟคลอกตายทั้งเป็น
เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โซ่พิสัย เพื่อเร่งคลี่คลายคดี พร้อมร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจกองปราบปราม กองกำกับการ 3 ลงพื้นที่หาข่าวเชิงลึก เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี โดยแบ่งกำลังออกแกะรอยตามกล้องวงจรปิดทั้งที่เป็นส่วนของทางราชการ และตามห้างร้านที่อยู่ตามเส้นทางปากคาด-โซ่พิสัย ตามพยานที่พบเห็นรถเก๋งสีดำวิ่งวนเวียนอยู่ใกล้บริเวณทางเข้าวัดอยู่หลายรอบ เมื่อกลางดึกคืนเกิดเหตุ ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุที่พอเก็บได้ก็มีหมวกไหมพรม และหมวกชนิดปิดบังใบหน้า ได้ส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำไปตรวจหา DNA แล้ว ส่วนทรัพย์สินที่มีอยู่คนร้ายไม่แตะต้อง มีเงินสดในกระเป๋าถือ 6,070 บาท สมุดเงินฝากส่วนตัวหลายบัญชี มีบัตร ATM โทรศัพท์มือถือ ขณะนี้กำลังให้ผู้เชี่ยวชาญได้ถอดข้อมูลดูว่ามีใครโทรเข้าหรือพระผู้ตายโทรออกไปหาใครบ้าง
ขณะที่บริเวณสำนักปฏิบัติธรรม ได้มีญาติโยมตลอดจนลูกศิษย์ลูกหา จัดเตรียมสถานที่ประกอบพิธีศพของพระสมจิต เกิดทรัพย์ หรือหลวงพ่อแต โดยมีการกางเต็นท์ จัดเตรียมไฟส่องสว่าง จัดหาอาหารน้ำดื่มเตรียมรองรับพระสงฆ์ที่จะมาร่วมพิธี
นางจันทร์ อิ่มอุบล อายุ 48 ปี ลูกศิษย์ของพระสมจิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า พระสมจิตเป็นคนดีใครมาหา มาขอความช่วยเหลือก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือตลอด เป็นพระผู้ให้ ใครไม่สบายมาหาหลวงพ่อก็รักษาให้หมด ไม่คิดว่าท่านจะไปมีเรื่องกับใคร อยากให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว จับมาให้ดูหน้าหน่อยจะถามว่าทำไมถึงฆ่าได้กระทั่งพระ ขอให้ลงโทษให้หนักให้ตายตกไปตามกัน
ด้าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย กล่าวว่า แรกตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ ฆาตกรรมและเป็นอุบัติเหตุจากการตรวจที่เกิดเหตุ และผลตรวจศพที่ยังไม่เป็นทางการพบว่าไม่มีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้ายใดๆ เลย แต่ในปอดพบว่ามีแต่ควันไฟ สันนิฐานว่าลำลักควันไฟจนเสียชีวิต ประกอบกับการตรวจที่เกิดเหตุนั้นพบคราบน้ำมัน และไม้พันด้วยผ้าชุบน้ำมัน 2 ท่อนในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการประมวลข้อมูลเชื่อว่าพระรายนี้ถูกฆาตกรรม ส่วนประเด็นตั้งไว้คือความขัดแย้งภายในวัด ประเด็นชู้สาว และประเด็นเงินกู้ โดยตั้งชุดตำรวจในพื้นที่ ตำรวจภาค 4 ตำรวจกองปราบ ออกหาสืบสวนหาคนร้ายและอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ต้องสงสัย ทั้ง 3 คน คดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ พยามสืบสวนหาข่าวอย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่กับพยานหลักฐานด้วย จะกล่าวหาใครเลยคงไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆ คนร้ายได้ทิ้งพยานวัตถุไว้ก็คือ หมวก และคราบเลือด เชื่อไม่นานจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดี หากชาวบ้านรู้เห็นเหตุการณ์ก็สามารถส่งมาให้ข้อมูลที่ สภ.โซ่พิสัย ได้ตลอดเวลา
ขอขอบคุณข่าวมติชน https://www.matichon.co.th/region/news_1571251‘>