ตำรวจเร่งแกะรอย เหตุฆาตกรรมพระนักบุญ “หลวงพ่อแต” ภายในสำนักปฏิบัติธรรมพระประเสริฐเกิดทรัพย์ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้เบาะแส 3 ผู้ต้องสงสัยโดยเฉพาะอดีตลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดที่มีปากเสียงกันรุนแรงก่อนวันที่หลวงพ่อแต ถูกฆาตกรรม คาดปมความขัดแย้ง
ความคืบหน้ากรณีมีผู้ก่อเหตุฆาตกรรมพระสมจิต เกิดทรัพย์ หรือ หลวงพ่อแต อายุ 53 ปี ภายในสำนักปฏิบัติธรรมพระประเสริฐเกิดทรัพย์ บ้านโพนทอง ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำมันแล้วจุดไฟก่อนโยนเข้าไปในกุฏิ ทำให้พระสงฆ์มรณภาพ
วันนี้ (8 ก.ค.2562) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรโซ่พิสัย ภูธรจังหวัดบึงกาฬตำรวจภูธรภาค 4 ยังคงลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสผู้ที่ก่อเหตุฆาตกรรมหลวงพ่อแค ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างหลวงพ่อแต ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผู้กำกับการ สภ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ กล่าวถึงได้ข้อสรุปเบื้องต้น เกิดจากขาดอากาศหายใจจากการสูดดมควันไฟเข้าไป ส่วนสาเหตุการฆาตกรรม ตำรวจตั้งเป้าไว้ 2-3 ประเด็น โดยเฉพาะปมขัดแย้งกับอดีตลูกศิษย์ หรือผลประโยชน์ภายในวัด โดยได้สอบปากคำผู้ต้องสงสัย 3 ปาก ทั้งพระลูกวัดและอดีตลูกศิษย์
“ตอนนี้ได้ผู้ต้องสงสัยมา 3 คน คนแรกเป็นพระลูกวัดที่อยู่กับพระในที่เกิดเหตุ อีก 2 คนเป็นชาวบ้านที่เคยเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดกับพระ ก่อนเกิดเหตุเคยมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง ตำรวจก็ตามประเด็นนี้อยู่”
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต. ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ จะลงพื้นที่เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี เพื่อติดตามความคืบหน้า เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ
สำหรับพระสมจิต เกิดทรัพย์ หรือหลวงพ่อแต เจ้าสำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมพระประเสริฐเกิดทรัพย์ ชาวบ้านเรียกขานว่าเป็นพระนักบุญ เพราะชอบช่วยเหลือและรักษาชาวบ้านจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และยังช่วยรักษาอาการผู้ถูกคุณไสยตามความเชื่อของชาวบ้าน จนทำให้มีลูกศิษย์ทั้งในและจังหวัดใกล้เคียงต่างเลื่อมใสศรัทธา
สำนักสงฆ์แห่งนี้ เดิมเคยมีพระสงฆ์จำพรรษา 4 รูป ปัจจุบันเหลือเพียง 2 รูป ที่ผ่านมาเคยเกิดความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะกรณีมีลูกศิษย์นำชื่อของสำนักสงฆ์ไปจัดทำผ้าป่าเพื่อหารายได้เข้าวัด ซึ่งหลวงพ่อแตไม่เห็นด้วย และกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งเรื่อยมา
‘>