LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

บึงกาฬ-เกิดเหตุไฟไหม้บ้าน สามพี่น้องวอดไป 2 หลังครึ่ง

[videojs mp4=”https://clip.77jowo.com/newscenter_1564746033_91.mp4″ poster=”https://img.77jowo.com/large/newscenter_1564746032_6009.jpg” width=”640″ height=”360″]
บึงกาฬไฟไหม้บ้านครั้งที่ 2 สามพี่น้องวอดไป 2 หลังครึ่ง

บ้านเคยถูกไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ดับได้ทัน คราวนี้มีแต่ลูกๆ อยู่บ้านที่กำลังเตรียมตัวไปโรงเรียนไฟช็อตจากด้านบน แล้วลุกลามไปยังบ้านญาติข้างเคียงอีก 2 หลัง หลังที่ 3 ดับได้ทันแต่เสียหายไปครึ่ง โชคดีที่นำรถยนต์และรถไถนาออกมาจากตัวบ้านได้ก่อนจะถูกไฟเผาผลาญ ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท




เมื่อเวลา 07.40 น.วันที่ 2 ส.ค.ร.ต.อ.ประยูร ชัยเพชร รอง สว.(สอบสวน)สภ.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 2 บ้านโคกกระแซ ต.บ้านต้อง อ.เซกา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ต.ประดุง วงชารี สว.หน.สภ.โสกก่าม พร้อมกับประสานรถดับเพลิงจาก อบต.บ้านต้อง อบต.โสกก่าม อบต.โพธิ์หมากแข้ง เทศบาลตำบลบึงงามและเทศบาลบึงโขงหลง หน่วยกู้ภัยสว่างบึงโขงหลง-โสกก่ามและกู้ภัยเทพารักษ์ ระดมเจ้าหน้าที่ออกไปช่วยสกัดดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงแม้ชาวบ้านจะช่วยกันหิ้วถังน้ำมาช่วยดับแต่ก็เอาไม่อยู่เนื่องจากเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี บ้านหลังแรกต้นเพลิงเป็นบ้านของนายบรรจง หล้าแพง อายุ 51 ปีขณะเกิดเหตุออกจากบ้านไปกรีดยางยังไม่กลับ คงมีแต่ลูกสาวอยู่บ้านที่กำลังเตรียมตัวไปโรงเรียน

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังจากไฟได้ลุกไหม้บ้านหลังแรก ได้ลุกลามมายังหลังที่ 2 ที่อยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้เช่นกันของนางรำพา บุญหลา อายุ 60 ปีบ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 2 ซึ่งเป็นพี่สาวของนายบรรจง จากนั้นไฟได้ลุกลามไปยังบ้านหลังที่ 3 ที่อยู่ติดกันเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นเช่นกันและเป็นบ้านของนางจันทรา หล้าแพง อายุ 62 ปีบ้านเลขที่ 227 เป็นบ้านพี่สาวคนโตของนายบรรจง ขณะเกิดเหตุทั้ง 2 หลังนี้ก็ไม่มีใครอยู่ในบ้าน แต่รถดับเพลิงคันที่ 5 ได้มาสมทบฉีดน้ำดับได้ทันก่อนที่ไฟจะเผาผลาญมอดไหม้ไปกับกองเพลิง หลังที่ 3 นี้จึงเสียหายไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์

ส่วน ด.ญ.หยาดทิพย์ หล้าแพง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 เล่าว่าขณะเกิดเหตุตนได้อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ได้กลิ่นไฟไหม้ จึงร้องไปถามพี่สาว นร.ม.3 ญาติกันที่มารอไปโรงเรียนด้วยกันว่าได้กลิ่นอะไรไหม้ จากนั้นไฟก็ได้ลุกไหม้มาจากชั้นบนบ้านอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกลามไปยังบ้านอีก 2 หลังติดกัน และบ้านต้นเพลิงเมื่อ 3 ปีก่อนก็เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรที่สะพานไฟมาแล้ว แต่ดับได้ทันก่อนจะลุกไหม้สร้างความเสียหาย ส่วนค่าเสียครั้งนี้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้งหนึ่ง.

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ

‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด