บึงกาฬ จับแล้วปู่ฤๅษีข่มขืนลูกสาววัย 15 เจอ 3 ข้อหาหนักตร.ไม่ให้ประกันตัว
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 6 พ.ย.พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ สว.สส.พ.ต.ท.เสกสรรค์ บาอุ้ย สวป. นำกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ และสภ.ศรีวิไล นำหมายศาลจังหวัดบึงกาฬ เข้าจับกุม
พระไพบูล ฉายา วิปุโลหรือนามสกุล จูมศรีสิงห์ อายุ 45 ปี เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำปู่ฤๅษีภูสิงห์มิ่งมิตร บ้านโนนสง่า หมู่ที่ 12 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี ,กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้ถูกกระทำนั้นเป็นผู้สืบสันดานของตนเอง ซึ่งการเข้าจับกุมในครั้งนี้ พระไพบูลหรือปู่ฤๅษีไพบูล ยินยอมให้ตำรวจเข้าควบคุมตัวโดยดีไม่มีการขัดขืน หรือขัดขวางการจับกุมแต่อย่างใด เพื่อนำตัวไปที่ สภ.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล ที่ลูกสาววัย 15 ปีได้ให้การว่าถูกปู่ฤๅษีซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ทำการข่มขืนในสำนักสงฆ์ ตามที่ได้ให้ปากคำเอาไว้กับพนักงานสอบสวนต่อหน้านักจิตวิทยาหรือสหวิชาชีพนานกว่า 3 ชั่วโมงในห้องสอบสวนเด็กที่สำนักงานอัยการจังหวัดบึงกาฬ เมื่อค่ำวานที่ผ่านมา หลังจากควบคุมตัวไปถึง สภ.ศรีวิไลแล้ว ได้นำตัวไปที่ห้องสอบสวนที่จัดไว้พิเศษที่ชั้น 2 ของโรงพัก เพื่อรอการสอบสวนต่อไป โดยไม่อนุญาตให้ญาติโยมหรือลูกศิษย์เข้าเยี่ยมได้หรือแม้แต่สื่อมวลชนก็ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบันทึกภาพทำข่าวแต่อย่างใด
ด้าน นางดาลัด หิรัญไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดบึงกาฬ ได้นำสำเนาใบสุทธิของพระไพบูล วิปุโล ผู้ต้องหาข่มขืนลูกสาวในไส้ของตัวเองไปตรวจสอบบัญชีพระบวชใหม่อย่างละเอียด กับพระพุทธิสารมุนีหรือหลวงปู่น้ำ รองเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬและเจ้าอาวาสวัดบุพพราชสโมสร หรือวัดกลางบึงกาฬ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่เคยบวชให้ นายไพบูล จูมศรีสิงห์หรือปู่ฤๅษีไพบูลย์ ที่มาบรรพชาอุปสมบทในพระอุโบสถวัดแห่งนี้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 โดยได้ใบสุทธิ เลขที่ 70 /2547 จึงเป็นพระจริง
พระพุทธิสารมุนี หรือหลวงปู่น้ำ รองเจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬฝ่ายมหานิกายได้กล่าวเตือนพระภิกษุ สามเณร ในพระพุทธศาสนาว่าให้ระมัดระวัง เรื่องการปฏิบัติตัวครองตนในสมณเพศให้ยึดถือปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้ระมัดระวัง 3 ส. ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อเพศบรรพชิตอย่างยิ่ง ก็คือ ส.1 สตรี ส.ที่ 2 สตางค์ และ ส.ที่ 3 คือสุรา โดยเฉพาะเครื่องดื่มยี่ห้อพญานาค ซึ่งพระมักอ้างว่าดื่มเป็นยาชูกำลัง แท้ที่จริงแล้วก็เป็นของมึนเมาเมื่อดื่มไปแล้วก็ขาดสติ คลองตนไม่ได้ คลองเพศบรรพชิตไม่อยู่ จึงล่วงละเมิดพระวินัย ทำให้มีการกระทำผิดจะเห็นได้ที่ตกเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ จึงขอฝากให้เพศบรรพชิตได้ระมัดระวังด้วย
ล่าสุดเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ร.ต.อ.เสกสรร นาห่อม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นำตัวผู้ต้องหาลงมาชั้นล่างพร้อมพระลูกศิษย์ที่ติดตามมาให้กำลังใจ 3 รูป เพื่อเริ่มต้นขบวนการสอบสวน ซึ่งสีหน้าท่าทางของปู่ฤๅษีไม่ได้วิตกกังวลใดๆ ท่าทางยังเรียบเฉยพูดคุยกับลูกศิษย์ลูกหาตามปกติ ซึ่งทาง พ.ต.อ.อนุกุล ดาวลอย ผกก.กล่าวว่ายังไม่อนุญาตให้ประกันตัว เกรงจะหลบหนีและไปข่มขู่พยานหลักฐาน หลังจากสอบสวนเบื้องต้นก็จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบึงกาฬ และหากจะยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาลก็ไม่คัดค้าน ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลต่อไป.
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บึงกาฬ
‘>