บึงกาฬรณรงค์กำจัดของเสียอันตรายชุมชน สร้างความตระหนักความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม

บึงกาฬรณรงค์กำจัดของเสียอันตรายชุมชน สร้างความตระหนักความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม

วันที่ 28 ม.ค. 2563 นายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานจัดกิจกรรมการกำจัดของเสียอันตรายชุมชนจังหวัดบึงกาฬ ปี 2563
นายพีรวัส เมฆิน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับมลพิษสิ่งแวดล้อมได้เกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรมและมีการพัฒนาของเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการเพิ่มของประชากรอย่างรวดเร็ว ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรมและหมดไป รัฐบาลได้ตระหนักถึงความจำเป็นดังกล่าว กำหนดเรื่องปัญหาขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายเป็นวาระแห่งชาติ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ที่จะต้องลดการใช้ นำกลับมาใช้ใหม่ และกำจัดอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะของเสียอันตราย จากข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ ปี 2561 ประเทศไทยมีปริมาณขยะ 27.8 ล้านตัน นำกลับมาใช้ใหม่ ร้อยละ 34 นำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ร้อยละ 39 ที่เหลือ ร้อยละ 27 กำจัดไม่ถูกต้อง ตกค้างตามแหล่งต่างๆ สำหรับจังหวัดบึงกาฬ ปี 2562 มีปริมาณขยะเกิดขึ้นวันละ 402.66 ตัน กำจัดขยะได้ถูกต้อง ร้อยละ 11 นำกลับมาใช้ใหม่ ร้อยละ 76 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 13 ตกค้างและไม่ได้กำจัดอย่างถูกต้อง จังหวัดบึงกาฬ โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จัดกิจกรรมการกำจัดของเสียอันตรายชุมชน ปี 2563 โดยรวบรวมของเสียอันตรายจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง นำส่งไปกำจัด ณ สถานที่กำจัดที่ถูกต้องตามหลักวิธี จำนวนทั้งสิ้น 3.5 ตัน

ทางด้านนายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ตามความเป็นจริงขยะของเสียอันตรายมีจำนวนมากกว่านี้มาก ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกันดำเนินการกำจัดอย่างถูกหลักวิชาการ โดยเฉพาะต้นน้ำ ในหมู่บ้าน ชุมชน บริษัท ห้าง ร้าน และประชาชนต้องตระหนักและให้ความสำคัญในการช่วยกันกำจัด โดยเก็บรวบรวมขยะของเสียอันตรายที่ผ่านการใช้งานแล้ว เช่น หลอดไฟ แบตเตอรี กระป๋องบรรจุสารเคมี ถ่านไฟฉาย ฯลฯ ไปส่งให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้านเก็บรวบรวมไว้แล้วนำมาส่งให้กับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ เพื่อส่งไปกำจัด ณ สถานที่กำจัดที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป‘>