นรข.ยึดไม้พะยูงข้ามชาติ 109 ท่อนจ่อลงเรือริมโขง

หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงบึงกาฬ สนธิกำลังตรวจยึดรถกระบะ 1 คันแต่งเป็นตู้ทึบคล้ายรถส่งสินค้าขนไม้พะยูง 109 ท่อนมูลค่า 3 ล้านบาทลงเรือริมโขง เห็นเจ้าหน้าที่เผ่นหนีกระจาย

เมื่อเวลา 05.45 น.วันที่ 21 ก.ย.56 พล.ร.ต.รังสรรค์ โตอรุณ ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงหรือ นรข.นครพนม สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงส่งขายต่างชาติ บริเวณริมน้ำโขงที่กำลังก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพัง บ้านหาดแฮ่ หมู่ที่ 3 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ นาวาเอกมรุเดช บุญนิตย์ ผบ. นรข.เขตหนองคายและ เรือเอกคำพัน พวงไธสง หน.สถานีเรือบึงกาฬ สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.บพิธ พิมายนอก ผกก.สภ.บุ่งคล้า พ.ต.ท.ภฤศ ภาสว่าง สว.กก.3 บก.ปทส. พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 บึงกาฬ พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ นายสา แสงสว่าง ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติฯบึงกาฬ นายอดุลย์รัตน์ ตั้งทวี ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 และนายทรัพย์สิน จงดี หน.ป้องกันรักษาป่าที่ นค.4 (เซกา) วางแผนจับกุม เวลาดังกล่าวขณะที่เจ้าหน้าที่ซุ่มรออยู่ใกล้ริมน้ำโขง พบรถยนต์กระบะ 1 คันต่อเป็นตู้ทึบคล้ายรถขนส่งสินค้าวิ่งเข้ามาจอดริมน้ำโขงใกล้จุดก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพัง ขณะเดียวกันมีเรือติดเครื่องยนต์วิ่งข้ามน้ำโขงจากฝั่ง สปป.ลาว มาจอดอยู่ใกล้กันจากนั้นมีชายฉกรรจ์ประมาณ 15 คนเดินออกมาจากที่ซ่อนขนไม้พะยูงจากรถลงไปเรือ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ทั้งหมดได้วิ่งกระจายกันหลบหนีฝ่าความมืดไปได้ พร้อมกับเรือติดเครื่องยนต์วิ่งหนีกลับไปฝั่ง สปป.ลาว ตรวจที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ารุ่นไทเกอร์สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ปอ.7132 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังที่ต่อเป็นตู้ทึบมีไม้พะยูงเหลือจากการขนย้ายลงเรือ จำนวน 109 ท่อน/เหลี่ยม/กลม ปริมาตร 1.55 ลูกบาศก์เมตร ราคาประมาณ 3 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง นอกจากนี้ยังพบบัตรประชาชนและสำเนาสัญญาเช่าซื้อรถของ นายเตียง ละฝ้าย เลขที่ 4 หมู่ 14 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติในครั้งนี้ จะได้เรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง จึงนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บุ่งคล้า สืบสวนหาเจ้าของมาดำเนินคดีต่อไป.

นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี’>