โควิด -มหาดไทย / เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ จากสถานการณ์เชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันและความเสี่ยงการแพร่ระบาดในหมู่บ้านและชุมชน ตลอดจนป้องกันกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ง่ายต่อการติดเชื้อ จึงขอให้จังหวัด แจ้งอำเภอ เพื่อประสาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเทศบาล ดำเนินการในการค้นหา และเฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงทุกแห่งในอำเภอ
โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร จากต่างประเทศ และจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น สนามมวย สนามกีฬา สถานบันเทิง หรือไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.เป็นต้นมา
หากพบผู้ใดที่เข้าข่าย ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจัดทำบัญชีรายชื่อ เพื่อเฝ้าสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วันนับตั้งแต่บุคคลดังกล่าวเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และขอความร่วมมืองด หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกหมู่บ้านหรือ ชุมชน และรายงานข้อมูลให้เทศบาล และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อติดตาม เฝ้าระวัง พร้อมสรุปข้อมูลให้ทางอำเภอรับทราบ
สำหรับมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อภายในหมู่บ้านหรือ ชุมชน กรณีกลุ่มที่เดินทางจาก กรุงเทพมหานคร และต่างประเทศ หรือจุดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด กรณีมีอาการป่วย ให้กำนัน ผู้ใหญ่ ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ประสานสาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นรับทราบทันที เพื่อเข้ารับการรักษา และประเมินอาการ
หากเข้าข่ายสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ให้ดำเนินการตามมาตรการที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกำหนด พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อในจุดดังกล่าวเพื่อป้องกันโดยเร็ว ส่วนบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด ให้ดำเนินตามมาตรการคัดกรอง แยกกักตัวอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ในกรณีที่หมู่บ้านหรือชุมชน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และ ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยความเห็นชอบของประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ได้พิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ 2558 ในการปิดการเข้า-ออก หมู่บ้านหรือชุมชนนั้นไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยต้องรายงานกระทรวงมหาดไทยทราบทุกครั้ง
‘>