เมื่อเวลา 08.40น.วันที่ 20 เม.ย.2563 ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬได้รับการเปิดเผยจาก นายชัชวาลย์ ฤทธิ์ฐิติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ภายหลังจากไปตรวจดูโรงแรมอาฮงแม่โขงวิว ที่จะใช้เป็น รพ.สนาม สำรองพร้อมกับ พ.อ.ยรรยง แสงฮาด รอง กอ.รมน.บึงกาฬว่านายสนิท ขาวสอาด ผวจ.บึงกาฬ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬ ได้สั่งการให้มีการกักกันผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดทุกกรณี ทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่มาจากจุดเสี่ยงรุนแรงก็จะถูกกักกันเป็น Local Quarantine ซึ่งเตรียมสถานที่ไว้ที่บ้านพักในราชภัฏอุดรธานี ศูนย์บึงกาฬ ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงน้อยก็จะจัดเป็น Home Quarantine ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ซึ่งทุกกรณีเราจะต้องมีการไปวัดไข้ดูความเป็นอยู่ตลอดทั้ง 14 วัน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่เข้ารับการกักกันรวมทั้งหมด 9,000 คน ซึ่งอยู่ระหว่างกักกัน 5 พันกว่าคนและอีก 4 พันกว่าคนได้พ้นระยะกัก 14 วันแล้ว ส่วนการตรวจหาเชื้อจะส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ เขต 8 อุดรธานี ภายใน 1 วันก็จะรู้ผลในวันรุ่งขึ้น สำหรับในด้านของการรักษาพยาบาลเราก็ต้องเตรียมรักษาไม่ว่าจะเป็นผู้เจ็บป่วยร้ายแรงเราก็มีเตียงที่โรงพยาบาลบึงกาฬ 14 เตียงและก็โรงพยาบาลชุมชนรวมทั้งหมด 100 กว่าเตียง ส่วน รพ.สนามก็เตรียมไว้ที่วัดอาฮงแห่งหนึ่ง ราชภัฏอุดรแห่งหนึ่งและก็โรงแรมบีเคเพลส ส่วนยาในการรักษานั้นเราได้รับการจัดสรรอย่างครบถ้วนแล้ว ก็คิดว่าจะดูแลประชาชนชาวบึงกาฬได้ ส่วนด่านตรวจคัดกรองทางผู้ว่าได้สั่งการให้ตรวจเข้มทั้ง 5 ด่านหลักและ 3 ด่านรอง เพื่อดูประชาชนที่จะเดินทางเข้า-ออกจังหวัดบึงกาฬอย่างเคร่งครัด ประชาชนอาจจะไม่รับความสะดวก ทั้งนี้เพื่อสุขภาพที่ไม่ให้โควิด 19 เข้ามาคุกคามของพี่น้องชาวจังหวัดบึงกาฬ จึงขอความร่วมมือให้อยู่บ้านจะปลอดภัยไม่ต้องไปไหน เนื่องจากว่าโรคนี้ได้ติดต่อระหว่างคนสู่คนหากคบคนได้น้อยลงก็จะลดการเสี่ยงในการติดต่อมากขึ้น กินร้อนใช้ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือให้สะอาดแล้วก็สวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัยก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดี
ส่วนมาตรการหลักในการสู้กับภัยไวรัสโควิด 19 ที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬ กำหนดขึ้นมาจึงทำให้ไวรัสโควิดยังไม่สามารถเจาะไข่แดงของจังหวัดบึงกาฬได้มี ดังนี้คือ 1.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลโควิด-19 จังหวัดบึงกาฬ ณ สำนักงานจังหวัดบึงกาฬ แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจังหวัดบึงกาฬ กำหนดให้เข้าออกศาลากลางจังหวัดเฉพาะประตูทางเข้าด้านหน้า เตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้ทุกคนที่เข้ามาบนศาลากลางต้องล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนทุกครั้ง วัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้ามาบนศาลากลางจังหวัด ใครมีอุณหภูมิเกิน 37 องศา ห้ามเข้า ตั้งด่านตรวจคัดกรองคนเข้าออกระหว่างจังหวัด ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่ 22.00-04.00 น.ห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ ผู้ที่มาจากต่างประเทศและพื้นที่เสี่ยง ต้องแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทราบ ทำประวัติและกักกันตัวเองอยู่ในบ้าน 14 วัน ปิดร้านอาหารทุกประเภท ยกเว้นซื้อไปกินที่บ้าน ปิดร้านเสริมสวย ร้านเสริมความงาม คลินิกทำฟัน ตัดผม สปา ร้านนวดแผนโบราณ ปิดด่านชายแทนทั้งด่านผ่อนปรนและด่านสากล ยกเว้นรถส่งสินค้าเข้า-ออก มีคนขับและผู้ช่วยได้ รวมไม่เกิน 2 คน ห้ามรวมกลุ่มกันเกินกว่า 5 คน และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จนถึงวันที่ 30 เม.ย.63
2.ใช้การสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งวิทยุหลักวิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เสียงตามสาย สื่อโซเชียล สื่อบุคคล ป้ายประชาสัมพันธ์ เอกสารประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่พบปะผู้เสี่ยงติดโรค และรถเคลื่อนที่ตามชุมชนต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ส่วนแผนการที่วางไว้มีดังนี้คือ เตรียมสถานที่กักกันตัว Local Quarantine ผู้มีความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย ม.ราชภัฏอุดรธานี ศูนย์บึงกาฬ รร.บีเคเพลส และรร.อาฮงแม่โขงวิว
นายแพทย์ สสจ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่ประชาชนต่างเป็นห่วงเรื่องที่ รพ.หนองคายได้ปล่อยตัวผู้ป่วยโควิด 19 ที่มาจาก จ.ภูเก็ตออกมากักกันที่บ้านคนรู้จักในหมู่บ้านโนนสะแบง ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ได้รักษาอยู่ที่ รพ.หนองคายจนครบ 14 วันแล้ว ถึงแม้จะตรวจซ้ำผลจะออกมาเป็นบวกก็เป็นซากของเชื้อโควิด ซึ่งไม่สามารถเผยแพร่เชื้อได้อีก แต่เพื่อความสบายใจของพี่น้องที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปรับตัวผู้ป่วยรายนี้มากักกันที่ รพ.บึงกาฬแล้ว
ขอขอบคุณ นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บึงกาฬ ข่าวคมชัดลึก https://www.komchadluek.net/news/local/428027‘>