วันที่ 25 เมษายน เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดบึงกาฬ พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบทำให้หลังคากระเบื้องของศาลากลางจังหวัดบึงกาฬหล่นลงมาแตกเสียหายเป็นจำนวนมาก หลายสำนักงานที่มีสำนักงานอยู่ที่ชั้น 4 ของศาลากลาง ต้องอพยพขนย้ายสิ่งของหนีน้ำฝนที่รั่วซึมลงมา เช่นเดียวกับเกษตรกรชาวสวนยางพารา ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ มีต้นยางพาราของเกษตรกรถูกแรงลมพัดหักโค่นเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยที่บ้านนาสุขสันต์ หมู่ที่ 12 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ มีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 18 ราย ต้นยางพาราหักโค่นจำนวน 1,204 ต้น บ้านคำหมื่น หมู่ที่ 9 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ มีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 8 ราย ต้นยางพาราหักโค่นจำนวน 200 ต้น และยังมีอยู่ในพื้นที่อำเภอปากคาด และอำเภอบุ่งคล้า อำเภอโซ่พิสัย อีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นกับสวนยางพาราไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
นางขนิษฐา บุญมา อายุ 61 ปี เจ้าของสวนยางพาราที่อยู่บ้านหนองคังคา ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า กล่าวว่า สวนของตนอยู่ติดริมน้ำโขง มีอยู่ 5 ไร่ มีต้นยางพาราอายุ 7 ปี อยู่กว่า 300 ต้น ตอนนี้ถูกแรงลมพัดหักโค่นไป 38 ต้น สลับกันไปมาตามสวน ซึ่งยังไม่ได้ลงทะเบียนกับการยาง คงไม่ได้รับเงินเยียวยา ที่ร้ายไปกว่านั้นคือราคายางพาราตกต่ำลงทุกวัน วันนี้เหลือเพียง 16 บาท ยางก็ราคาถูกยังมาโดนพายุเล่นงานอีก
ด้านกรมอุตุแจ้งพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่และมีลมกระโชกแรง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้
ที่มาข่าวมติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2156406‘>